Search Results | TheCollectiveStudio
top of page

Search Results

275 items found for ""

  • 5 สิ่งสำคัญในการออกแบบโรงแรมที่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคดิจิทัล

    แนะนำ 5 สิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการออกแบบโรงแรม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในความปรารถนาสูงสุดของเหล่านักเดินทางทุกคนที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนภายในโรงแรมหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางท่องเที่ยวและการทำกิจกรรมต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน คือ การได้รับประสบการณ์ในการพักผ่อนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความผ่อนคลาย สะดวก สบาย และมีความทันสมัยรับกับโลกดิจิทัลในปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อให้แน่ใจได้ว่าแขกทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่น่าจดจำและผ่อนคลายในระหว่างการพักอยู่ที่โรงแรมของคุณ ในบทความนี้ THE COLLECTIVE STUDIO จะขอพาเจ้าของธุรกิจโรงแรมทุกคนที่ต้องการสร้างหรือรีโนเวทการออกแบบโรงแรมขึ้นใหม่ มาร่วมสำรวจองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ออกแบบโรงแรมสามารถช่วยยกระดับประสบการณ์ในการเข้าพักที่โรงแรมไปสู่ความเหนือระดับได้อย่างแท้จริง ออกแบบโรงแรมให้มีธีมและคอนเซปต์ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างเอกลักษณ์และประสบการณ์ที่แตกต่าง การกำหนดธีมและคอนเซปต์ที่โดดเด่นเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการออกแบบโรงแรม เช่น การนำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่น ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ หรือแนวคิดสมัยใหม่มาใช้ การมีธีมที่น่าสนใจจะช่วยสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่ผู้เข้าพัก ซึ่งการนำเสนอเรื่องราวและคอนเซปต์ผ่านการออกแบบทุกองค์ประกอบของโรงแรม ตั้งแต่สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน งานประติมากรรม และเฟอร์นิเจอร์ที่สอดคล้องกับธีม ทำให้สามารถสร้างสรรค์พื้นที่โรงแรมของคุณให้แตกต่างได้ดี รวมถึงการมีเรื่องราวก็ทำให้สามารถสร้างมุมถ่ายภาพสวยๆ (Instagramable) เกิดจุดเด่นทางด้านการตลาดเพื่อดึงดูดแขกให้เข้ามาพักได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ออกแบบโรงแรมให้มีพื้นที่ล็อบบี้ที่เก๋ไก๋และน่าดึงดูดใจ ล็อบบี้ของโรงแรมเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการช่วยกำหนด First impression หรือ ความประทับใจแรกที่แขกทุกคนจะมีต่อการเข้าพักในโรงแรม เพราะฉะนั้นแล้ว การออกแบบโรงแรมให้มีพื้นที่ล็อบบี้ที่มีทั้งการต้อนรับของพนักงานที่อบอุ่น โซลูชันการเช็กอินในรูปแบบดิจิทัลที่ทันสมัย ร่วมกับการมีการผสมผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อาทิ พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย การตกแต่งอย่างมีสไตล์ และการจัดแสงไฟโดยรอบเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้แขกเกิดความรู้สึกประทับใจในการออกแบบโรงแรมและอยากที่จะเข้าพักในโรงแรมมากยิ่งขึ้น ออกแบบโรงแรมให้มีห้องพักที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และอำนวยความสะดวกสบาย อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการออกแบบโรงแรม คือ การออกแบบพื้นที่ห้องพักทุกประเภทบนพื้นฐานของความสะดวกสบาย และประโยชน์ใช้สอยของกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ เช่น โรงแรมที่เน้นการพักผ่อน ท่องเที่ยว กับโรงแรมที่เน้นกลุ่มธุรกิจ นั้นก็มีความต้องการของผู้เข้าพักที่ต่างกัน ทั้งในเรื่องเฟอร์นิเจอร์ แสงสว่าง ฯลฯ เพราะฉะนั้นการออกแบบโรงแรมควรวางกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ก็จะออกแบบสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ที่มาเข้าพักได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้การนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการออกแบบโรงแรม อาทิ ระบบไฟที่สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้แบบอัจฉริยะ หรือระบบการชาร์จอุปกรณ์แบบไร้สาย ก็นับเป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้โรงแรมมีความทันสมัยและตอบโจทย์การช่วยสร้างความสะดวกสบายในการเข้าพักที่มากยิ่งขึ้น ออกแบบโรงแรมให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับการออกแบบโรงแรม การออกแบบโรงแรมให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งภายนอกห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นชั้นดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวได้ในมุมกว้าง ฟิตเนสที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายที่หลากหลาย สระว่ายน้ำที่สวยงามทั้งตอนกลางวันและมีแสงที่สวยงามในตอนกลางคืน สปาที่พร้อมให้บริการทรีตเมนต์ในบรรยากาศที่ดี เพื่อการช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับแขกผู้เข้าพัก รวมถึงภายในห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi สมาร์ตทีวี อุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย และอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ เป็นต้น ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าพัก ร่วมกับการช่วยสร้างความประทับใจและความพึงพอใจในการเข้าพักในโรงแรมให้กับแขกทุกคนได้อย่างดีที่สุด ออกแบบโรงแรมให้ตอบโจทย์ความเป็น Universal Design การออกแบบโรงแรมให้ตอบโจทย์ความเป็น Universal Design ถือเป็นหลักสำคัญในการออกแบบที่จะทำให้ผู้เข้าพักทุกเพศและทุกช่วงวัย สามารถพักผ่อนและใช้บริการต่าง ๆ ภายในโรงแรมได้อย่างสะดวกและราบรื่นมากที่สุดอย่างแท้จริง โดยการออกแบบโรงแรมในรูปแบบของ Universal Design ควรเป็นไปบนหลักพื้นฐาน 4A ดังนี้ Access หรือ การออกแบบโรงแรมให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก ทั้งในการเดินทางภายในโรงแรม การขึ้นและลงจากรถ ไปจนถึงการเช็กอิน Accommodation หรือ การออกแบบโรงแรมให้มีห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน Activity หรือ การออกแบบโรงแรมให้มีกิจกรรมที่ตอบโจทย์ผู้เข้าพักในแต่ละช่วงวัย Attraction หรือ การออกแบบโรงแรมให้มีโปรแกรมพักผ่อนและท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงเพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย หากคุณกำลังมองหาบริษัทที่รับให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบโรงแรม หรือรับออกแบบตกแต่งภายใน พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการตกแต่งบ้านของคุณ ด้วยโซลูชันการออกแบบที่หลากหลาย มีผลทางการออกแบบตกแต่งภายในที่สวยงามตรงใจตามแบบที่ต้องการได้จริง ที่ THE COLLECTIVE STUDIO เราคือบริษัทตกแต่งภายในและอินทีเรียดีไซน์ ที่พร้อมให้บริการด้านการออกแบบและการผลิต ทั้งงานสถาปัตยกรรม เรามีบริการรับออกแบบตกแต่งภายในในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับตกแต่งภายในให้ธุรกิจต่าง ๆ ของคุณ เช่น ออกแบบร้านกาแฟ ออกแบบร้านอาหาร ออกแบบสปา ไปจนถึงงานออกแบบรีสอร์ท ออกแบบโรงแรม สำหรับการท่องเที่ยว แม้แต่งานออกแบบสำนักงาน ออกแบบออฟฟิศ เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการทำงาน เราก็ทำได้ THE COLLECTIVE STUDIO เราสร้างสรรค์งานอินทีเรียดีไซน์ ด้วยกราฟิกและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบครบวงจร ด้วยฝีมือของสถาปนิก และนักออกแบบมืออาชีพในทุกสาขาวิชา ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบ และการรับออกแบบตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูง โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด มองหาบริการออกแบบโรงแรม หรืออินทีเรียดีไซน์ ติดต่อ The Collective Studio Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • การจัดแสง สิ่งสำคัญในการออกแบบออฟฟิศที่ไม่ควรละเลย...

    ไขเคล็ด (ไม่) ลับในการจัดแสงและออกแบบออฟฟิศให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การจัดแสงสว่างให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการใช้งานนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปในการออกแบบสำนักงานหรือการออกแบบออฟฟิศ เนื่องจากการจัดแสงสว่างที่ตอบโจทย์กับการใช้งานไม่เพียงสามารถช่วยสนับสนุนภาพรวมในการตกแต่งออฟฟิศให้มีความสวยงามและโดดเด่นมากขึ้นได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกคนเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว THE COLLECTIVE STUDIO จึงได้ทำการรวบรวมแนวทางในการจัดแสงไฟที่ตอบโจทย์การออกแบบสำนักงานและการออกแบบออฟฟิศ มาฝากทุกคนกันในบทความนี้ เลือกใช้แสงธรรมชาติในการออกแบบออฟฟิศ การออกแบบออฟฟิศและพื้นที่ภายในสำนักงานให้สามารถเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการจัดแสงไฟภายในออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแสงธรรมชาติจะช่วยทำให้พนักงานสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเวลาและสภาพอากาศได้ อีกทั้งการได้สัมผัสกับธรรมชาติยังช่วยให้ร่างกายสามารถผลิต Serotonin หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุขขึ้นมา เพื่อช่วยจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อการช่วยเพิ่มความสดชื่น ช่วยทำให้อารมณ์ดี และช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น เลือกระบบไฟในการออกแบบออฟฟิศด้วยหลอดไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ การเลือกใช้หลอดไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างของแสงได้ในการขั้นตอนของการออกแบบสำนักงาน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การจัดแสงภายในอาคารออฟฟิศมีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างบรรยากาศในการออกแบบออฟฟิศที่หลากหลายได้ตามต้องการ อาทิ การปรับแสงไฟให้อ่อนลงเพื่อสร้างความผ่อนคลายในพื้นที่พักผ่อนหรือเมื่อต้องการความสงบสุขในการทำงาน และการปรับแสงไฟให้สว่างมากขึ้นเพื่อต้องการกระตุ้นความสนใจหรือเสริมสร้างความสดชื่นกระฉับกระเฉงในระหว่างการทำงาน เป็นต้น ให้ความสำคัญกับการลดการสะท้อนของแสงไฟในการออกแบบออฟฟิศ หนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับการจัดแสงที่สามารถพบเจอได้บ่อยในการออกแบบสำนักงานหรือการออกแบบออฟฟิศ คือ ปัญหาเกี่ยวกับการสะท้อนของแสงไฟ ที่เกิดขึ้นจากการที่แสงไฟต่าง ๆ ตกกระทบลงบนพื้นผิวหรือของตกแต่งที่สามารถสะท้อนแสงกลับมาได้ง่าย จนส่งผลทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกไม่สบายตา อีกทั้งยังทำให้เกิดความร้อนจนส่งผลให้ออฟฟิศต้องใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อการรับมือกับแสงสะท้อนดังกล่าว เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกใช้งานวัสดุที่มีค่าการสะท้อนแสงต่ำร่วมกับการปรับแต่งวิธีการจัดแสงเพื่อลดการสะท้อนของแสงบนพื้นผิวต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การจัดแสงและการออกแบบออฟฟิศในภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เลือกใช้หลอดไฟในโทนสีเย็นในการออกแบบออฟฟิศ โดยทั่วไปแล้ว หลอดไฟที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกันหลากหลายสีนับตั้งแต่หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm White) ที่ให้สีเหลืองเข้มไปจนถึงส้ม หลอดไฟคูลไวท์ (Cool White) ที่มาพร้อมด้วยโทนสีขาวอบอุ่น และหลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight) ที่ให้แสงสีขาวในโทนเย็นเหมือนในธรรมชาติ แต่สำหรับในการจัดแสงและการออกแบบออฟฟิศให้สามารถช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานได้อย่างโดดเด่นได้ สิ่งสำคัญคือการพิจารณาเลือกใช้แสงไฟในโทนเย็นหรือแสงไฟจากหลอดไฟเดย์ไลท์ที่สามารถช่วยให้พนักงานมองเห็นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความรู้สึกสดใส กระปรี้กระเปร่า และมีความตื่นตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น พิจารณาติดตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะในการออกแบบออฟฟิศ ในบางครั้งการจัดแสงไฟบนเพดานอาจไม่สามารถให้ความสว่างที่เพียงพอสำหรับการอ่านเอกสาร การจดบันทึก หรือการทำงานที่ต้องอาศัยการมองเห็นที่ชัดเจนได้ เพราะฉะนั้นแล้ว การออกแบบออฟฟิศให้มีการติดตั้งโคมไฟบนโต๊ะทำงานของพนักงานหรือพื้นที่ในมุมอับที่ไม่สามารถจัดแสงให้ส่องสว่างเข้าไปได้อย่างเพียงพอ จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการออกแบบออฟฟิศที่จะช่วยทำให้พนักงานมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสมกับการช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพและการสร้างผลลัพธ์ในการทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากคุณกำลังมองหาบริษัทออกแบบภายในหรือออกแบบออฟฟิศ ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการออกแบบของคุณ ที่ THE COLLECTIVE STUDIO เราคือบริษัทออกแบบภายในและอินทีเรียดีไซน์ ที่พร้อมให้บริการด้านการออกแบบและการผลิต ด้วยโซลูชันการออกแบบที่หลากหลาย สร้างผลงานออกแบบตกแต่งภายในที่มีความสวยงามตรงใจตามแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรม รวมถึงงานออกแบบร้านอาหาร ออกแบบสปา ออกแบบสำนักงาน ออกแบบรีสอร์ท หรือออกแบบโรงแรม รวมถึงงานอินทีเรียดีไซน์อื่น ๆ เราใช้กราฟิกและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบครบวงจร โดยสถาปนิก อินทีเรียดีไซน์ และนักออกแบบมืออาชีพในทุกสาขาวิชา หากคุณต้องการงานออกแบบออฟฟิศที่สร้างสรรค์ รวมถึงการออกแบบตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูง โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ THE COLLECTIVE STUDIO เราสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด มองหาบริการออกแบบออฟฟิศ หรืออินทีเรียดีไซน์ ติดต่อ The Collective Studio Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • แนวทางการตกแต่ง Showroom design ยุคใหม่ ไม่ให้ตกเทรนด์

    เจาะลึก 6 เคล็ดลับในการตกแต่ง Showroom Design ยุคใหม่ให้ทันสมัยและโดนใจผู้บริโภค แม้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้จะทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของการสั่งซื้อสินค้าจากบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังมีผู้บริโภคอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงชื่นชอบการได้มาเดินเลือกดูและเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นแล้ว ในการจะออกแบบตกแต่ง Showroom Design ยุคใหม่ ที่ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับการจัดแสดงสินค้า แต่ยังเป็นพื้นที่ในการนำเสนอตัวตนของแบรนด์ที่จะช่วยดึงดูดและกระตุ้นอารมณ์ของลูกค้าให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย สิ่งสำคัญคือการค้นหาสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างแนวทางการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์และเทรนด์การตกแต่งแบบใหม่ ๆ ของ Showroom Design โดยในบทความนี้ THE COLLECTIVE STUDIO จะขอพาทุกคนมาร่วมค้นพบเคล็ดลับในการตกแต่ง Showroom Design ยุคใหม่ให้ทันสมัยและโดนใจผู้บริโภคในยุคปัจจุบันกัน เคล็ดลับตกแต่ง Showroom Design ให้โดนใจลูกค้า เข้ามาแล้วต้องซื้อ! ติดตามเทรนด์การออกแบบ Showroom Design อยู่เสมอ หากต้องการตกแต่ง Showroom Design ยุคใหม่ให้ไม่ตกเทรนด์ สิ่งสำคัญคือการหมั่นติดตามเทรนด์ล่าสุดในการออกแบบ รวมถึงเทรนด์ที่เกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรมของคุณอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะผ่านการค้นคว้าข้อมูลบนโลกออนไลน์ การเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้า หรือการสังเกต Showroom Design ของคู่แข่งในวงการธุรกิจเดียวกัน เพื่อทำความเข้าใจว่าเทรนด์หรือกระแสอะไรกำลังเป็นที่นิยมและเหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบโชว์รูมของคุณ ให้ความสำคัญกับการออกแบบ Showroom Design ที่ตอบโจทย์ในการช่วยสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูกค้า โชว์รูมสินค้าเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มาร่วมดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ และมีความน่าสนใจในระหว่างการเยี่ยมชมสินค้า เพราะฉะนั้นแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยให้การตกแต่ง Showroom Design ไม่ตกเทรนด์และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างไม่รู้ลืม คือ การให้ความสำคัญกับการออกแบบเลย์เอาต์ที่ราบรื่นและสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อการช่วยกระตุ้นอารมณ์และส่งเสริมประสบการณ์ร่วมระหว่างธุรกิจและลูกค้าได้อย่างดีที่สุด ผสานการออกแบบ Showroom Design เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย การผสานรวมเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ากับการออกแบบตกแต่ง Showroom Design ในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ลูกค้าสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้โดยตรง ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์แบบเสมือนจริง ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประโยชน์จากการใช้งานเทคโนโลยีที่ไม่เพียงช่วยทำให้การออกแบบ Showroom Design ของคุณมีความแตกต่างไปจากคู่แข่ง แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มการโต้ตอบและการมีส่วนร่วมระหว่างธุรกิจและกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เน้นการออกแบบ Showroom Design ที่ความยืดหยุ่น หากคุณต้องการออกแบบและตกแต่ง Showroom Design ให้สามารถปรับตัวตามเทรนด์สมัยใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปคือ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโมดูลาร์ที่สามารถถอดหรือเพิ่มชิ้นส่วนได้ตามต้องการ รวมถึงจอแสดงผลแบบเคลื่อนย้ายได้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถปรับแต่งการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ เพื่อให้สามารถรองรับกับความต้องการในปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อรองรับกับเทรนด์และสินค้าใหม่ ๆ ได้ตามต้องการโดยที่ไม่ส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการออกแบบ Showroom Design ออกแบบ Showroom Design ให้มีพื้นที่ที่เหมาะกับโซเชียลมีเดีย อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การออกแบบ Showroom Design มีความทันสมัยและสามารถดึงดูดใจคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี คือ การออกแบบพื้นที่ภายในโชว์รูมจัดแสดงสินค้าให้มีฉากหลังที่สะดุดตา อุปกรณ์ประกอบฉากที่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงมุมถ่ายรูปที่เหมาะกับโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง TikTok, Instagram และ Facebook เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมอยากที่จะบันทึกและแบ่งปันประสบการณ์ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการช่วยทำให้ผู้ที่ผ่านมาพบเห็นและเกิดความสนใจในการออกแบบ Showroom Design ของคุณมีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าและช่วยให้การปิดการขายเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สร้างสมดุลระหว่างการออกแบบ Showroom Design ตามเทรนด์ ในยุคปัจจุบันที่พฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์การออกแบบตกแต่ง Showroom Design มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา การสร้างสมดุลระหว่างเทรนด์การออกแบบใหม่ ๆ และเทรนด์การออกแบบที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นอมตะที่สามารถสะท้อนถึงเอกลักษณ์และคุณค่าของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการออกแบบ Showroom Design ให้ไม่ตกเทรนด์และมีความโดนใจผู้บริโภคจนสามารถช่วยสร้างความประทับใจที่ยั่งยืนไปได้พร้อม ๆ กัน หากคุณกำลังมองหาบริษัทออกแบบภายใน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการออกแบบ Showroom Design ด้วยโซลูชันการออกแบบที่หลากหลาย ด้วยผลทางการออกแบบตกแต่งภายในที่มีความสวยงามตรงใจตามแบบที่ต้องการ ที่ THE COLLECTIVE STUDIO เราคือบริษัทออกแบบภายในและอินทีเรียดีไซน์ ที่พร้อมให้บริการด้านการออกแบบและการผลิต ทั้งงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร บ้าน นอกจากนี้เรายังรับออกแบบตกแต่งภายใน รับตกแต่งภายใน ให้กับธุรกิจมากมาย เช่น ออกแบบร้านอาหาร ออกแบบสปา ออกแบบสำนักงาน ออกแบบออฟฟิศ ออกแบบรีสอร์ท ออกแบบโรงแรม รวมถึงออกแบบ Showroom Design โดยใช้กราฟิกและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบครบวงจร รวมถึงประสบการณ์ของสถาปนิก อินทีเรียดีไซน์ และนักออกแบบมืออาชีพในทุกสาขาวิชา ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ ผลงานการออกแบบและการรับออกแบบตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูง โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด มองหาบริการออกแบบ showroom design หรืออินทีเรียดีไซน์ ติดต่อ The Collective Studio Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • 5 เคล็ดลับออกแบบบ้านเย็นสบาย ประหยัดค่าไฟฟ้า ไม่ต้องพึ่งแอร์

    ถึงจะหน้าร้อนแต่บ้านไม่ร้อน ถ้าวางแผนออกแบบบ้านอย่างดีตั้งแต่เริ่ม วันนี้ The Collective มาแนะนำ 5 เทคนิคในการออกแบบบ้าน ที่รับรองว่าบ้านเย็นได้ ไม่ต้องพึ่งแอร์เลย ยิ่งนับวัน โลกเรายิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ร้อนแบบที่ไม่อยากออกไปไหนเลยนอกจากอยู่ในห้องแอร์ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราหลายด้าน ทั้งเรื่องค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินภายในบ้านจากความร้อนสูง เช่น หลายคนมีห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมูลค่าสูง พอเจอความร้อนสะสมมากๆก็ทำให้วัสดุพวกยาง พลาสติกเสียหายได้ ในขณะเดียวกัน วิธีดับร้อนที่ผู้คนเลือกใช้ ก็คงหนีไม่พ้น การใช้เครื่องปรับอากาศมาช่วยคลายร้อน แต่ก็ต้องตามมาด้วยค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น หลายคนจึงถามหาวิธีออกแบบบ้านและอาคารอย่างไรดีไม่ให้ร้อน ซึ่งหากมีการออกแบบที่ดี ก็จะช่วยลดความร้อน และป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคารหรือบ้านพักอาศัยได้ โดยติดเครื่องปรับอากาศให้น้อยที่สุด ซึ่งมีหลายวิธีดังนี้ 1. การวางผังอาคารให้สัมพันธ์กับทิศทางของแสงแดด และลม ทิศเหนือและทิศใต้ เหมาะสำหรับวางตำแหน่งหน้าบ้าน หลังบ้าน เพราะมีลมพัดผ่านตลอด ส่วนทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ควรวางพื้นที่ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ส่วนบริการ เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ต้องการแสงแดด จึงควรเอามากันแดดให้กับตัวบ้าน แล้ววางตำแหน่งห้องที่ใช้พักผ่อน เช่น การทำห้องนอนและห้องนั่งเล่น ควรวางตำแหน่งห้องให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ดังนั้น การออกแบบให้มีลมธรรมชาติพัดผ่านเข้ามาภายในตัวบ้าน จึงช่วยทั้งลดความร้อน และความชื้นครับ ลองดูว่าช่วงเย็นๆพอแดดหมดแล้ว ลมที่พัดผ่านนั้นก็มีความเย็นอยู่พอสมควร ถ้าเราออกแบบบ้านให้ลมสามารถพัดผ่านได้ด้วยการให้มีทางเข้าและทางออกตามทิศทางที่ควรจะเป็นก็ทำให้ช่วยลดความร้อนไปได้เยอะครับ 2. จัดสรรพื้นที่กึ่งเปิด เช่น ระเบียง ใต้ถุนบ้าน เพื่อใช้ทำกิจกรรมโดยไม่ต้องใช้แอร์ สำหรับบ้านที่ค่อนข้างมีพื้นที่ หรือบ้านที่มีพื้นที่กึ่งเปิด ทำให้มีพื้นที่ที่มีร่มเงาภายในบ้าน ช่วยกันแสงแดดที่อาจส่องถึงพื้นที่ใช้งานภายในบ้านโดยตรง ส่งผลให้บ้านไม่ร้อน และยังสามารถมานั่งใช้งานพื้นที่นี้ได้โดยที่มีแสงสว่างธรรมชาติ และได้ความเย็นจากลมธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งแอร์เลยครับ 3. การปลูกต้นไม้ที่ช่วยให้ร่มเงา ลดความร้อน การปลูกต้นไม้ภายในบ้านเพียง 1 ต้น ก็สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 2-10 องศาเซลเซียส เพราะนอกจากต้นไม้จะช่วยกันแดดแล้ว การคายน้ำออกจากใบ ยังสามารถดูดความร้อนออกจากบริเวณโดยรอบด้วย แถมทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา ไม่แข็งกระด้าง จนเกินไป นับว่าได้ทั้งช่วยลดความร้อนทางด้านอุณหภูมิ และได้ความสบายทางสายตาไปพร้อมกัน 4. การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความร้อน วัสดุก่อสร้างมีหลากหลายชนิด อยู่ที่การเลือกใช้ตามความเหมาะสมและความต้องการของเรา ซึ่งหากต้องการทำให้บ้านเย็น การใช้อิฐมวลเบาที่มีฟองอากาศและรูพรุนภายในนับเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะ มีคุณสมบัติไม่สะสมความร้อนจากภายนอกเข้่าสู่อาคาร แต่หากเลือกใช้อิฐแดงหรืออิฐมอญ อิฐทั้งสองประเภทนี้นับเป็นตัวสะสมความร้อนที่ดีเลยล่ะครับ ซึ่งถ้าอยากตกแต่งในแนว Industrial Loft แนะนำใช้เป็นอิฐตกแต่งผนัง หรือวัสดุสังเคราะห์มาปิดผิวอีกที ก็จะช่วยให้ผนังดูมีมิติ โดดเด่น และไม่สะสมความร้อนได้ครับ 5. การเลือกโทนสีที่ลดการดูดซับความร้อน ยังไงผนังอาคาร การตกแต่งพื้นผิวหลักก็ยังคงเป็นการทาสีอยู่ ซึ่งการเลือกสีนั้น ก็มีผลต่อความร้อนบนผิวอาคารด้วยเช่นกัน อย่างการเลือกสีโทนสว่าง จะทำให้ดูดซับความร้อนได้น้อยกว่าสีเข้ม นอกจากการเลือกโทนสี คุณสมบัติของสีก็มีความสำคัญ อย่างการเลือกใช้สี ที่มีเทคโนโลยีสีเย็น ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ และคายความร้อนออกจากพื้นผิว ไม่สะสมความร้อน ทำให้บ้านและอาคารลดความร้อนลงได้ สำหรับประเทศไทยการออกแบบบ้านและอาคารให้สามารถรับมือกับสภาพอากาศร้อนจัดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหากเรามีโอกาสในการปรับปรุงบ้าน สามารถลองเอาแนวทางการออกแบบเหล่านี้ไปใช้ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และรักษาสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยกันได้นะครับ The Collective Studio Co., Ltd. www.ctstu.com Tel : 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่ Facebook : Instagram : Twitter : Youtube

  • ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ไปเดินชมนิทรรศการในเดือนพฤษภาคม 2567 ให้ชื่นใจก่อนเปิดเทอมกัน!

    เข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้ว น้องๆในชั้นมัธยมปลาย คงกำลังตื่นเต้นที่จะก้าวเข้าสู่ในรั้วมหาวิทยาลัยกันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งโอกาสมาถึงแล้วครับ! สำหรับน้องๆนักศึกษาในชั้นมัธยมปลาย เพราะนิทรรศการ งานศิลปะ อีเวนต์ เต็มไปด้วยผลงานนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ให้ทุกคนได้เดินชม และชื่นชมผลงานจากพี่ๆในรั้วมหาวิทยาลัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งาน Designing a Better Urban Future ผลงานสถาปัตยกรรมศาตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นิทรรศการ "To see : To Draw 4" ผลงาน โดยนักศึกษาปี 1 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ทั้งยังมีนิทรรศการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ให้ทุกคนได้เดินชมกันไปยาวๆ ถึงเดือนมิถุนายนนี้ บางงานใกล้หมดกำหนดการจัดนิทรรศการแล้ว รีบไปตามเก็บกันนะครับ 1. Designing a Better Urban Future การปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร กลายเป็นหนึ่งในประเด็นใหญ่ที่หลายคนจับตาตั้งแต่ต้นปี หรือคนมักแซวกันว่ากรุงเทพฯ ไม่มีผังเมืองเพราะดูไม่มีระเบียบอะไรเลย เราจะทำความเข้าใจข้อวิพากษ์วิจารณ์นี้อย่างไร?? เนื่องด้วย คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TDS) นั้นเป็นผู้นำในด้านสาขาวิชา สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง ซึ่งต้องการส่งเสริมความรู้ที่ล้ำสมัย รวมถึงการศึกษา และ มุมมองในระดับนานาชาติ โดย หลักสูตร Urban Design and Development (UDDI) ภายใต้คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง นั้นเป็นหลักสูตรที่ส่งเสริมวิสัยทัศน์ของทาง คณะฯ อีกทั้งยังตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสังคมสมัยใหม่ และ การเติบโตของเมือง เพื่อสร้างอนาคตของเมืองที่ครอบคลุมและดีขึ้น โดยนิทรรศการนี้ จะนำเสนอผลงานการศึกษาและออกแบบ ภายใต้หลักสูตรนานาชาติ ของ UDDI เพื่อจัดแสดงและเน้นย้ำถึงความท้าทายและโอกาสต่างๆที่สำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง ตั้งแต่ ประเด็นทาง สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ไปจนถึง วิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศที่เร่งด่วน ซึ่งการขยายตัวของเมืองนั้นสามารถเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยในการรับมือกับความท้าทายต่างๆดังกล่าว และ ยังสามารถพัฒนาไปสู่แนวทางแก้ไขในอนาคต พิกัด: BACC ผนังโค้ง ชั้น 3 ระยะเวลา: วันนี้ - 5 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10:00 - 22:00 น. 2. นิทรรศการ "To see : To Draw 4" โอกาสมาถึงแล้ว! สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพราะนิทรรศการนี้ได้นำเอาผลงาน โดยนักศึกษาปี 1 ที่นำเสนอเรื่องราวการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นจริงในชั้นเรียนตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพของการเรียนการสอนในคณะนี้ ผ่านผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมและเรื่องราวที่ถูกบรรจุอยู่ในชั้นเรียนของนิสิตชั้นปีที่ 1 โดยผู้ชมจะได้สัมผัสถึงมิติต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเนื้อหาการเรียนรู้ผ่านผลงานของนักศึกษาที่ตั้งใจนำมาจัดแสดงในงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสวนาและเวิร์กช็อปสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ให้ได้ทราบถึงวิธีการเตรียมความพร้อมเพื่อปรับพื้นฐานและมุมมองก่อนเข้าเรียน พร้อมรับฟังประสบการณ์การเรียนและการทำงานจริงจากรุ่นพี่ในวงการสถาปัตยกรรม พิกัด: ณ TCDC กรุงเทพฯ Front Lobby ชั้น 1 ระยะเวลา: วันนี้ - 26 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10.30 - 19.00 น. (ปิดวันจันทร์) 3. FULLSTOP BOOK งานหนังสือที่จัดโดยสำนักพิมพ์ฟูลสต๊อป สำนักพิมพ์ที่โดดเด่นในเรื่องการทำหนังสือภาพ หนังสือนิยายภาพ และนำงานภาพจากหนังสือมาต่อยอดเป็นโปสการ์ด โปสเตอร์และของสะสมต่างๆรวมถึงหนังสือก็เป็นของสะสมได้เช่นกัน หนังสือและผลิตภัณฑ์ของฟูลสต๊อปไม่มีวางจำหน่ายตามร้านทั่วไปมากนัก ดังนั้นการจัดงานหนังสือฟูลสต๊อปที่หอศิลปกรุงเทพฯ จึงเป็นการแสดงผลงานที่รวบรวมไว้อย่างครบถ้วน โดยผลงานใหม่ล่าสุดในปีนี้คือ วาฬผีเสื้อ วาดและเขียนโดย MANASAWII เจ้าของผลงาน ควันหลงและหมอกขาว ซึ่งได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นประเภทนิยายภาพทั่วไป จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษา และรางวัลหนังสือดีเด่น เซเว่นบุ๊ค อวอร์ด และยังมีหนังสือสเก็ตช์ ท่องเที่ยวนานาประเทศให้ทุกคนได้เลือกสรรกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีผลงานภาพโปสเตอร์และของสะสมอื่น จากศิลปิน นักออกแบบอย่าง ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ รวมถึงสมุดสเก็ตช์ในแบบของฟูลสต๊อป ที่ทำจากการนำกระดาษที่เหลือจากการพิมพ์มาเย็บเป็นเล่มและออกแบบให้เรียบง่ายเหมาะกับการใช้งานมาวางจำหน่ายอีกด้วยเช่นกันครับ พิกัด: BACC โถง ชั้น 1 ระยะเวลา: วันนี้ - 12 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10:00 - 22:00 น. 4. เท FLEA MARKET SEASON 14 กลับมาอีกครั้งกับงาน เท FLEA MARKET ที่จัดขึ้นปีนี้เป็นครั้งที่ 14 แล้ว! ในตีม "Disco Party" ชวนเพื่อน ชวนแฟน ฟิตติ้งชุดให้พร้อม แล้วออกมาเต้นไปด้วยกัน! กลับมาครั้งนี้บอกเลยมีแต่ความสนุก สายเที่ยว สายกิน สายชอร์ป สายอาร์m หรือสายงานคราฟ อย่าพลาดเลยงานนี้ ภายในงานมีทั้ง เสื้อผ้าชิคๆ/สินค้ามือสองแนวๆ/กล้องฟิล์ม/ของแฮนด์เมดต่างๆ/ของเล่น ของสะสม และอื่นๆ อีกมากมาย จัดหนักจัดเต็มตลอด 4 วัน! ไม่เพียงเท่านี้ เท 𝐅𝐥𝐞𝐚 𝐌𝐚𝐫𝐤𝐞𝐭 𝐒𝐞𝐚𝐬𝐨𝐧 𝟏𝟒 ยังมี "บาร์ Vinyl" เอาใจนักฟังตัวยงอีกด้วย จะฟังเพลงหรือจะเดินช็อปปิ้ง ก็ครบจบในที่เดียว! งานนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใครที่มีสัตว์เลี้ยงก็สามารถพาน้องๆ มาเดินเล่นในงานได้ด้วยครับ พิกัด: สวนหลวงสแควร์ - อุทยาน 100 ปี ระยะเวลา: วันนี้ - 5 พฤษภาคม 2567 เวลา: 16.00 - 23.30 น. 5. นิทรรศการ Piyawan's Impression นิทรรศการ Piyawan’s Impression โดย ปิยวรรณ ชูชื่น ผลงานจิตรกรรมในนิทรรศการชุดนี้ เป็นการถ่ายทอดหลายสิ่งหลายอย่างที่ประทับใจของศิลปิน ด้วยการสังเกตและมองเห็นผ่านความชอบส่วนตัว เพื่อบันทึกไว้เป็นความทรงจำ ฝากไว้เพียงธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยอิสระทางความคิด และใช้ศิลปะนำทาง พิกัด: ณ People’s Gallery ห้อง P3 ชั้น 2 หอศิลปกรุงเทพฯ ระยะเวลา: วันนี้ - 2 มิถุนายน 2567 เวลา: 10.00 - 20.00 น. 6. นิทรรศการ ชีวิตประจำวัน นิทรรศการ "Everyday Life ชีวิตประจำวัน" ผลงานโดย พิเชษฐ ยังพบ (Pichate Youngpob) ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากการใช้ชีวิตประจำวันของเขาตามสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน เพราะชีวิตประจำวันของมนุษย์ล้วนพบเจอแต่เรื่องราวที่เป็นกิจวัตร คน สัตว์ สิ่งของ ทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจ การตีความ และการหาความหมายของสิ่งต่าง ๆ จึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และรับรู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่ บนความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดา พิกัด: People's Gallery ห้อง P1 และ P2, ชั้น 2, หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระยะเวลา: วันนี้ - 2 มิถุนายน 2567 เวลา: 10.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) 7. นิทรรศการภาพพิมพ์ "Maxnifier IV.5" นิทรรศการศิลปะภาพพิมพ์ "Maxnifier IV.5" โดย ml3print studio "Maxnifier IV.5" โดยในครั้งนี้มาในธีม Printday in May ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการพิมพ์ระดับโลกประจำปี ในช่วงกิจกรรม Printday in May ช่างพิมพ์นับหมื่นรายทั่วโลกจะพิมพ์และแบ่งปันประสบการณ์ของตนกับผู้อื่นผ่านการจัดนิทรรศการและกิจกรรม Workshop ใน Gallery , Studio ส่วนตัวรวมไปถึงสถานที่ต่างๆที่สามารถนำผลงานศิลปะภาพพิมพ์มาแบ่งปันและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับช่างพิมพ์ต่างๆทั่วโลก ซึ่งในครั้งนี้ทาง ml3print studio ได้นำผลงานของศิลปินภาพพิมพ์หรือ printmakers จากทั่วโลกนำมาจัดแสดงนิทรรศการที่ Broccoli Revolution Charoenkrung 42/1 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเดือนแห่งศิลปะภาพพิมพ์ Printday in May 2024 พิกัด: BROCCOLI REVOLUTION ระยะเวลา: วันนี้ - 15 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10.00 - 21.00 น. 8. นิทรรศการ THE STROKE นิทรรศการ "The Stroke" ผลงานโดย หลี่ควนเหลียน (Lee Kuan Lian) และ หวังควนหยา (Wang Kuan Ya) ด้วยผลงานฝีมือจิตรกรรมวาดเส้นหมึกจีน ที่ทั้งคู่ได้นำเสนอแนวคิดในปรัชญาตะวันออกผ่านรูปแบบของศิลปะร่วมสมัย Symbiosis ของ หลี่ควนเหลียน เป็นชุดผลงานขนาดใหญ่ที่ถูกติดตั้งพร้อมพรมบนพื้น ตัวงานศิลปะที่กินพื้นที่จากด้านบนจดล่าง ชี้ชวนให้เราใคร่ครวญถึงจุดยืนและการรักษาสมดุลภายใต้การเปลี่ยนแปลง Symbiosis หมายถึงเอกภาพของคู่ตรงข้าม อันเป็นปรัชญาที่ปรากฎในคัมภีร์เต้าเต๋อจิงของ"เล่าจื๊อ" นักปรัชญาชาวจีน ผู้คิดค้นวิถีแห่ง "เต๋า" ส่วนลวดลายพรมนั้นมาจากคัมภีร์อี้จิง คัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการก่อร่างอารยธรรมจีนมาแต่โบราณ ขณะที่ Hot Doooog Cart ของ หวังควนหยา นำเสนอผลงานร่วมสมัยผ่านการลากพู่กันแบบจิตรกรรมจีนประเพณี การตวัดฝีแปรงที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ก่อเกิดความงามที่เป็นธรรมดา ไม่ซับซ้อน ทว่างดงามและมีท่วงทำนองดังบทกวี ในขณะที่พื้นที่ว่างของผลงาน ทำหน้าที่สำคัญไม่ต่างจากเส้นหมึก ชวนให้ขบคิดถึงความจริงแท้ของสรรพสิ่งที่ดวงตามนุษย์เลือกเห็นและให้ความสำคัญ พิกัด: Third Place Gallery : อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี่ ระยะเวลา: วันนี้ - 23 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10.00 - 18.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

  • The Collective ได้รับรางวัล 'Award Winner' of Asia Pacific Property Award 2024-2025

    The Collective ได้รับรางวัล Award Winner ประเภท Architecture Single Residence ในโปรเจค ‘The Nest’ จาก Asia Pacific  Property Awards 2024-2025 ทั้งนี้ รางวัล Asia Pacific Property Awards เป็นส่วนหนึ่งของรางวัล International Property Awards ที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีและให้เกียรติต่อผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และสถาปนิก นักออกแบบตกแต่งภายใน โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นรางวัลที่ได้รับความน่าเชื่อถือและดีที่สุดในระดับภูมิภาค ซึ่งก่อนหน้านี้สำหรับรางวัล  Asia Pacific Property Awards 2024-2025 เราเคยได้รับรางวัลมาแล้ว 2 ผลงานด้วยกัน คือ NT Motorsport Kawasaki Showroom, Award Winner ประเภท Retail Interior Thailand ในปี 2018 - 2019 โชว์รูมรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ Kawasaki ที่เรารับบรีฟจากเจ้าของร้านมาเพียงว่า“รถจักรยานยนต์ Bigbike-Kawasaki-โชว์รูม-ศูนย์บริการ-ร้านกาแฟ-Industrial-แพร่ เท่านี้!” ตกตะกอนอยู่นาน ว่าจะออกแบบยังไงดีให้มันมีเรื่องราว และดึงความโดดเด่นออกมาให้ดีที่สุด รับชมแนวคิดและการออกแบบของพวกเราได้ที่: https://www.ctstu.com/post/nt-motorsport Spore Bangkok Office, The Best Office Interior ประเภท Interior Design Thailand ในปี 2020 - 2021 สำนักงานที่เราตั้งใจให้เป็นเหมือนห้อง Lab หรือห้องทดลองใต้ดินที่มีพนักงานเป็นเหมือนทีมงานกำลังแอบซุ่มทำการทดลองแบบลับๆ ราวกับหนังแนว Sci-fi อย่างไรอย่างนั้นเลยครับ รับชมแนวคิดและการออกแบบของพวกเราได้ที่: https://www.ctstu.com/post/spore-office เท่ากับว่าเราได้รับรางวัลทั้งด้าน สถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ออกแบบขึ้นมาจากแนวคิดและการสั่งสมประสบการณ์ ความท้าทายที่เราพบเจอมาในหลายๆโปรเจค นับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีใจและคุ้มค่ากับสิ่งที่เราตั้งใจทำในแต่ละโปรเจคออกมาอย่างดีมากๆครับ ทั้งนี้ The Collective ขอขอบคุณสำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโปรเจคนี้ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

  • ปัจจัยที่สำคัญในการออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ที่ทำให้ร้านของคุณดูแตกต่าง

    HONG SIENG KONG BY THE COLLECTIVE ไขความลับของการออกแบบร้านกาแฟ คาเฟ่ ให้สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างแท้จริง ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจร้านกาแฟไปจนถึงคาเฟ่ที่เป็นไปอย่างคึกคักในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะสร้างและออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ (Cafe) ให้สามารถครองใจลูกค้าขาประจำ และดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาใช้บริการเพื่อการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จนทำให้ร้านกาแฟใหม่ ๆ มากมายที่ดูเหมือนจะผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืนนั้นสามารถหายไปจากตลาดได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วพอ ๆ กัน เพราะฉะนั้นแล้วในวันนี้ THE COLLECTIVE STUDIO จะขอพาผู้ที่กำลังสนใจลงทุนเปิดร้านกาแฟและคาเฟ่ ไปร่วมไขความลับของการออกแบบร้านกาแฟว่า อะไรคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ร้านกาแฟของคุณพิเศษไม่เหมือนใครและสามารถดึงดูดลูกค้าขาประจำให้เข้าร้านมากกว่าลูกค้าขาจรได้อย่างแท้จริง ทำการบ้านก่อนการออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ ก่อนการตัดสินใจลงทุนสร้างและออกแบบร้านกาแฟ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของร้านทุกคนไม่ควรมองข้าม คือ การไปใช้บริการจริงที่ร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่อื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง หรือร้านกาแฟที่ตั้งภายในทำเลเดียวกันกับร้านกาแฟของคุณ ไปลองสัมผัสกับบรรยากาศ เพื่อช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกับเหตุผลต่าง ๆ ได้ว่า เพราะอะไรลูกค้าถึงตัดสินใจเลือกไปที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่เหล่านั้น ? อะไรทำให้ธุรกิจของพวกเขาได้เปรียบในการแข่งขัน ? รวมถึงตั้งคำถามว่าคุณจะสามารถทำอะไรให้ดีกว่าพวกเขาได้บ้าง เพื่อช่วยให้การออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ของคุณมีความโดดเด่นและสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมาได้ ? เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเริ่มต้นวางแผนออกแบบร้านกาแฟที่จะทำให้ลูกค้าอยากเข้าร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความประทับใจแรกที่จะได้รับจากการออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ หากคุณต้องการให้ร้านกาแฟของคุณโดดเด่น ท่ามกลางร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีอยู่มากมายจนสามารถดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง การออกแบบร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านเครื่องดื่ม ให้สามารถสะท้อนถึงเรื่องราวหรือแนวคิดที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ จะเป็นการสร้างความประทับใจแรก (First Impression) ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ความประทับใจแรกในการใช้บริการที่ลูกค้ามีต่อร้านกาแฟของคุณ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมันจะเป็นตัวกำหนดว่าลูกค้าคนไหนจะกลายมาเป็นลูกค้าประจำของคุณในอนาคต และที่สำคัญอย่างลืมรักษาความสม่ำเสมอของบรรยากาศและการออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่เอาไว้ เพื่อช่วยตอบสนองต่อความคาดหวังของกลุ่มลูกค้าประจำที่มีต่อร้านกาแฟของคุณได้อย่างแท้จริง การออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ให้มีการจัดสรรพื้นที่ภายในร้านอย่างลงตัว การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในร้านกาแฟที่ถูกคิดและวางแผนมาเป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกครั้งที่มาร้านกาแฟของคุณ โดยหนึ่งในตัวอย่างของการจัดสรรพื้นที่ภายในร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีประสิทธิภาพ คือ การออกแบบร้านกาแฟมุมเคาน์เตอร์ต้อนรับให้อยู่ในบริเวณที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากหน้าประตู ร่วมกับการออกแบบป้ายเมนูขนาดใหญ่เหนือศีรษะที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย และการจัดวางขนมอบและกล่องอาหารให้ลูกค้าที่ยืนรอคิวอยู่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อการให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มีความเร่งรีบ รวมถึงการให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็วมากที่สุด การเลือกใช้บริการออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่จากบริษัทรับออกแบบมืออาชีพ แม้ว่าคุณจะทำการบ้านเกี่ยวกับการออกแบบร้านกาแฟมาเป็นอย่างดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกใช้บริการบริษัทออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจหลักการเกี่ยวกับการออกแบบร้านกาแฟโดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้การสร้างร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจคาเฟ่ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการของทั้งคุณและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกันนี้ การเลือกใช้บริการบริษัทรับออกแบบมืออาชีพยังช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า ขั้นตอนการสร้างและตกแต่งภายในร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือธุรกิจเครื่องดื่มอื่น ๆ ของคุณจะไม่เกิดความล่าช้าจนส่งผลต่อการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาบริษัทตกแต่งภายใน บริษัทออกแบบร้านกาแฟและคาเฟ่ รวมถึงบริการรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการตกแต่งบ้านของคุณด้วยโซลูชันการออกแบบที่หลากหลายและผลทางการออกแบบตกแต่งภายในที่มีความสวยงามตรงใจตามแบบที่ต้องการ ที่ THE COLLECTIVE STUDIO เราคือบริษัทตกแต่งภายในและอินทีเรียดีไซน์ ที่พร้อมให้บริการด้านการออกแบบ เรารับออกแบบตกแต่งภายในให้ธุรกิจต่าง ๆ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ รวมถึงการออกแบบร้านกาแฟให้ออกมาเป็นร้านที่ไม่ซ้ำใคร มีสตอรี่ตั้งแต่แรกก้าวเข้าร้าน ทีมสถาปนิก อินทีเรียดีไซน์ และนักออกแบบมืออาชีพที่ THE COLLECTIVE STUDIO มีความเชี่ยวชาญในทุกสาขาวิชา มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบและรับออกแบบตกแต่งภายใน ให้ออกมาเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด มองหาบริการออกแบบร้านกาแฟ หรืออินทีเรียดีไซน์ Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • 10 สไตล์ อยากตกแต่งบ้านสไตล์นี้ ต้องบอกบริษัทตกแต่งภายในว่าอะไร

    เจาะลึกจุดเด่นของสไตล์การตกแต่งบ้าน สำหรับใช้พูดคุยกับบริษัทตกแต่งภายใน หากคุณเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหาใหญ่ที่ว่า ชอบสไตล์การตกแต่งบ้านในรูปแบบดังกล่าวนี้ แต่ไม่รู้จะเรียกสไตล์การตกแต่งดังกล่าวว่าอย่างไรดี อีกทั้งยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอธิบายสไตล์การแต่งบ้านที่ตนเองชื่นชอบอย่างไร ให้ทีมนักออกแบบและสถาปนิกจากบริษัทตกแต่งภายในเกิดความเข้าใจและมองเห็นภาพของการตกแต่งบ้านไปในทิศทางเดียวกัน ในบทความนี้ THE COLLECTIVE STUDIO จะขอพาทุกคนมาร่วมค้นพบเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ 4 สไตล์การตกแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ เพื่อการช่วยให้เจ้าของบ้านทุกคนมีความเข้าใจ สามารถสื่อสารทุกความต้องการในการตกแต่งบ้านไปยังบริษัทตกแต่งภายในได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ไขข้อสงสัย อยากตกแต่งบ้านสไตล์นี้ต้องบอกบริษัทตกแต่งภายในว่าอย่างไร ? 1. Modern Style https://cgifurniture.com/modern-interior-design-6-styles/ การตกแต่งบ้านในสไตล์โมเดิร์นเป็นสไตล์การตกแต่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมจนก่อให้เกิดแนวคิดในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพราะฉะนั้นแล้ว หากสไตล์การตกแต่งบ้านที่คุณชื่นชอบมีการมุ่งเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายและแปลนแบบเปิดโล่ง (Open Space) โดยมีเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านไม่มากแต่เพียงพอกับการใช้งาน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ยังมาพร้อมด้วยรูปทรงเรขาคณิตและวัสดุที่ทันสมัย อาทิ กระจก หรือโลหะ ที่สามารถช่วยเพิ่มมิติให้กับการตกแต่งบ้าน ในขณะที่เฉดสีภายในบ้านจะเน้นเป็นเฉดสีกลาง ๆ อาทิขาวครีม เทา เบจ คุณก็สามารถสื่อสารกับบริษัทตกแต่งภายในได้ในทันทีว่าสไตล์การตกแต่งบ้านที่คุณต้องการนั้นคือสไตล์โมเดิร์น 2. Minimal Style I’m Fly Studio Less is More หรือ น้อยแต่มาก เป็นแนวคิดที่สำคัญของการตกแต่งบ้านในสไตล์มินิมอล เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่จะสามารถสังเกตเห็นและเลือกนำไปพูดคุยกับบริษัทตกแต่งภายในได้อย่างชัดเจนในการตกแต่งบ้านในสไตล์มินิมอล คือ การลดทอนรายละเอียดต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นสำหรับการตกแต่งบ้านลงไป พร้อมเปิดรับความน้อยแต่มากของการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ร่วมกับการให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ให้มีความโปร่ง โล่ง สะอาดตา และมีการเปิดรับแสงจากธรรมชาติที่สามารถช่วยเสริมบรรยากาศโดยรวมให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น 3. Industrial Loft Basement Garage หากคุณชื่นชอบสไตล์การตกแต่งบ้านที่เท่และโดดเด่นแบบไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมีการมุ่งเน้นไปที่การเลือกใช้องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมแบบปูนเปลือย ผนังอิฐเปลือย คานเหล็ก พื้นคอนกรีต ร่วมกับการออกแบบพื้นที่ให้มีความเปิดโล่ง คุณสามารถพูดคุยกับบริษัทตกแต่งภายในได้ในทันทีว่าสไตล์การตกแต่งบ้านที่คุณชื่นชอบนั้นคือ การตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ บ้านสไตล์ลอฟท์เป็นแนวการตกแต่งที่ให้ความสำคัญกับการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุที่นำมาใช้ในการตกแต่งบ้าน โดยที่ไม่ได้มีแต่งหรือเติมอะไรเพิ่มเติมเข้าไป ตลอดจนการโชว์โครงสร้าง งานระบบ และงานท่อต่าง ๆ เพื่อการช่วยสร้างมุมมองในการตกแต่งที่มีความโดดเด่นและฉีกออกไปจากกฎเกณฑ์เดิม ๆ 4. Nordic / Scandinavian Style Patreeda Avenue การแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเวียน หรือ สไตล์นอร์ดิก เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศทางแถบสแกนดิเนเวียและยุโรปตอนเหนือ อาทิ นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ที่มุ่งเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขที่เรียบง่ายผ่านการให้คุณค่ากับสิ่งของต่าง ๆ รอบตัว เพราะฉะนั้นแล้ว จุดเด่นที่สำคัญของการแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิกที่คุณสามารถเลือกจดจำไปพูดคุยกับบริษัทตกแต่งภายในได้ คือ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายที่ทำมาจากวัสดุประเภทไม้หรือผ้า รวมถึงการเลือกใช้คู่สีไม้โอ๊ค สีเอิร์ทโทน หรือสีเบจ ที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นและนุ่มนวล และที่จะขาดไปไม่ได้ คือ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในตัวบ้านผ่านการนำต้นไม้ฟอกอากาศมาประดับตกแต่งในหลาย ๆ มุมเพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น 5. Boho Style Phuket Elephant Sanctuary สไตล์โบฮีเมียน (หรือที่รู้จักในชื่อ โบโฮ) ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยสไตล์โบโฮจะเน้นการรวมองค์ประกอบจากธรรมชาติและแบบออร์แกนิกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง มุมมองให้ดูมีมิติและสะท้อนรสนิยมส่วนตัว บริษัทตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะแนะนำให้ตกแต่งโดยใช้หวาย ไม้ไผ่ และผืนผ้าที่มีลวดลายต่าง ๆ ผสมผสานกับสีสันสดใส ดูโดดเด่น ขี้เล่น ดูมีระดับมากขึ้น 6. Eclectic Too Fast Too Sleep @Charn สไตล์ผสมผสาน (Eclectic) เป็นการตกแต่งบ้านโดยการหยิบเอาความหลากหลายของสิ่งของ และรูปแบบของการตกแต่งบ้านแต่ละสไตล์มารวมเข้าด้วยกันผ่านการใช้ สี รูปทรง การจัดวางองค์ประกอบ เช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์มาจัดวาง การตกแต่งด้วยการใช้สีคู่ตรงข้าม ทำให้เกิดมุมมองที่สวยงามและเหมาะสม โดยมุ่งเน้นการผสมผสาน (Mixing) มากกว่าการทำให้เข้ากัน (Matching) แต่เมื่อจัดวางองค์ประกอบโดยรวมเข้าด้วยกัน องค์ประกอบภายในห้องกลับเข้ากันได้อย่างลงตัว และดูกลมกลืน 7. Modern Farmhouse Indy Bangna 2 การตกแต่งสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จุดเด่นของสไตล์นี้คือ การนำของเก่าและของรีไซเคิลมาประยุกต์ใช้ แต่ถูกจัดวางอย่างทันสมัยและดูดี ไม่ได้เน้นความดิบแบบฟาร์มเฮ้าส์แท้ ๆ แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ การตกแต่งเน้นใช้ลายสก๊อต สีฟ้า สีเขียว และขาวดำ เป็นหลัก บรรยากาศภายในเน้นความอบอุ่น สบาย และมีกลิ่นอายความดั้งเดิม และไม่ดูเป็นทางการจนเกินไป ในฐานะบริษัทตกแต่งภายใน THE COLLECTIVE STUDIO ขอสรุปการตกแต่งสไตล์นี้ง่าย ๆ ว่ามันคือ การผสมผสานความดิบแบบอินดัสเทรียล เข้ากับความคลาสสิคของฟาร์มเฮ้าส์อย่างกลมกลืน 8. Glam Silom Suite การแต่งบ้านสไตล์ Glamorous เป็นสไตล์ที่เน้นแสดงความหรูหรา โชว์เอกลักษณ์ของวัสดุที่สวยงาม โดยนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากผ้ากำมะหยี่ ผ้าไหม หนัง โลหะ และเน้นการแต่งด้วยสีทอง สีเทา เพื่อให้เล่นกับแสงแล้วเกิดความระยิบระยับ บริษัทตกแต่งภายในอย่างเรา ๆ จะให้คำอธิบายการแต่งบ้านสไตล์นี้ว่าเป็นการตกแต่งที่ดูเรียบง่ายแต่โดดเด่น 9. Coastal The Moment สไตล์ ‘Coastal’ คือการตกแต่งที่นำเอาองค์ประกอบธรรมชาติของชายหาดเข้าสู่ภายในบ้าน เน้นการสร้างบรรยากาศสบายๆ แบบชายหาด มีความสดชื่น ผ่อนคลาย บริษัทตกแต่งภายในส่วนมากจะแนะนำให้เน้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ โทนสีฟ้า และ สีขาว ตัวบ้านมีการเปิดโล่ง ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่งสบาย มีหน้าต่างบานเปิดกว้าง ให้เปิดรับอากาศเข้าและได้รับแสงจากธรรมชาติ สร้างความรู้สึกโปร่งสบาย 10. Midcentury Modern Thew Talay Huahin สไตล์นี้ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากดีไซน์ช่วงทศวรรษที่ 1950s และ 1960s จนกลายเป็นหนึ่งในสไตล์ที่คนนิยมและเข้าถึงได้มากที่สุด เฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้ขึ้นชื่อเรื่องความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ที่ยังคงความทันสมัย เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ตกแต่งด้วยไม้สีอบอุ่น พร้อมใส่ใจรายละเอียดและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีการหยิบจับวัสดุแปลกใหม่มาตกแต่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก โลหะ หรือวัสดุใด ๆ ก็ตามที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก หรือไม่นิยมมาจับคู่กัน อาจด้วยไอเดียของ Mid-Century เกิดในช่วงหลังสงคราม ที่หลายประเทศต่างสูญเสียทรัพยากรของตัวเองไปจำนวนมาก จึงต้องเสาะหาวัสดุใหม่ ๆ มาใช้แทน หากคุณกำลังมองหาบริษัทตกแต่งภายใน ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการตกแต่งบ้านของคุณ ด้วยโซลูชันการออกแบบที่หลากหลาย ได้ผลลัพธ์การออกแบบตกแต่งภายในที่มีความสวยงามตามแบบที่ต้องการ ที่ THE COLLECTIVE STUDIO เราคือบริษัทตกแต่งภายในและอินทีเรียดีไซน์ ที่พร้อมให้บริการด้านการออกแบบ ทั้งงานสถาปัตยกรรม ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงธุรกิจร้านอาหาร สปา รีสอร์ท โรงแรม รวมถึงงานออกแบบสำนักงานและออฟฟิศ เรามีทีมสถาปนิก อินทีเรียดีไซน์ และนักออกแบบมืออาชีพในทุกสาขาวิชา ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสูง เป็นเอกลักษณ์ และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้บ้านของคุณออกมาตรงใจตามภาพที่คุณวางไว้ได้มากที่สุด มองหา บริษัทตกแต่งภายใน หรืออินทีเรียดีไซน์ ติดต่อ The Collective Studio Co., Ltd. Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • มารับความชุ่มฉ่ำดับร้อนไปด้วยกัน กับเทศกาลต้อนรับสงกรานต์ และนิทรรศการประจำเดือนเมษายน2567

    เริ่มต้นเดือนเมษามา ก็เดือดแล้ว กับอากาศที่ทะลุไปถึง 40 องศา! อากาศร้อนร้อนแบบนี้ ออกจากบ้านไปรับความชุ่มฉ่ำดับร้อนกัน บอกเลยเดือนนี้มีแต่เทศกาลดนตรี พิกัดเล่นน้ำสงกรานต์กันตลอดทั้งเดือน ให้ทุกคนได้รื่นรมย์ ชุ่มฉ่ำ เย็นสดชื่นกันไปแบบยาวๆ พร้อมต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะมาถึงอีกด้วยครับ หรือหากใครไม่ชอบเล่นน้ำ ยังมีนิทรรศการ งานศิลปะ และกิจกรรมอีกมากมาย ให้ทุกคนได้ไปเที่ยวชมกันอีกมากมายเช่นกันครับ 1.Chumchum Festival (ฉ่ำฉ่ำเฟสติวัล) เปิดต้นเดือนเมษามา ก็มีเซอร์ไพรส์ให้กับชาวบางนา และคนกรุงเทพฯ ให้ชุ่มฉ่ำ กับ เทศกาลสงกรานต์ก่อนใครแล้ว กับ ”CHUM CHUM Festival“(ฉ่ำๆ เฟสติวัล) มหกรรมงานดนตรี ที่จะเปลี่ยนบางนาให้เป็นพื้นที่ชุ่มฉ่ำ พร้อมยกกองทัพเหล่าศิลปินระดับประเทศมาไว้ทุกคนแล้วที่นี่ งานนี้ไม่ฟรีนะครับ รับชมรายละเอียดเพิ่มเติมและช่องทางการจัดจำหน่ายบัตรด้ที่: https://www.facebook.com/photo?fbid=808284384671282&set=a.592423712924018 พิกัด: ณ ลานกิจกรรม Central Bangna ระยะเวลา: : 5 - 7 เมษายน 2567 เวลา: - 2.รวม Music Festival ปี 2567 ต้อนรับสงกรานต์แบบฉ่ำๆ รวมพิกัด Songkran Music Festival ปี 2567 ขอบอกเลยว่าฉ่ำจริง! เพราะศิลปินไทยยกขบวนมาแบบจัดเต็ม พร้อมมอบความมันส์ให้ทุกคนได้สนุกกันทั้งวันหยุดสงกรานต์แบบเต็มๆ สงกรานต์นี้อยากไปรับความชุ่มฉ่ำกันที่ไหน ปักหมุดไว้ได้เลยครับ พิกัด: - ระยะเวลา: : 5 - 20 เมษายน 2567 เวลา: - 3.MMADhappening 10 Fest : April Fire Day ตลาดนัดมัดรวมงานอาร์ตที่เตรียมความสนุกมามอบให้กับทุกคนตลอด 10 เดือน ด้วยกิจกรรมศิลปะหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาร์ตมาร์เก็ตจากเหล่าดีไซเนอร์ เวิร์กช็อปสนุกๆ ให้คุณได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่รัก พร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินหลากแนวที่จะทำให้วันหยุดของคุณสนุกกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น Quicksand Bed, Bent, Lostchips, KALIPSE ฯลฯ ปิดท้ายด้วยนิทรรศการและ Photo Spot ที่เราชวนนักวาดและนักออกแบบมาเติมแต่งผนังเป็นมุมถ่ายรูปให้ทุกคนได้ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้ทุกเดือน สำหรับเดือนเมษายนนี้ ศิลปินมากความสามารถ อย่าง นัท-คณัสนันท์ เข็มทอง หรือที่เราต่างรู้จักกันในชื่อ KNN.Five ผู้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ไม่ซ้ำใครและนิทรรศการ NEOTHAICIVILIZATION ที่บอกเล่าถึงชีวิตของผู้คนในโลกอารยธรรมใหม่ โดยมีเหล่ากลุ่มผู้รอดชีวิตที่ออกแบบคาแรกเตอร์มาจากนพลักษณ์อีกด้วย เขาจะพา เพลิง คาแรกเตอร์คู่ใจมาสร้างความร้อนแรงให้กับงานในครั้งนี้อย่างไร มาพบกันได้ที่งานนี้ พิกัด: MunMun Srinakarin ระยะเวลา: 26 - 28 เมษายน 2567 เวลา: - 4.Shade of Sunshine งานศิลปะจากศิลปินนักเล่าเรื่อง 7 คน ได้แก่ Kiwtum, Koong, Nutped, Past.tell, Peachful, Plulalin และ toddyinthemood นิทรรศการที่เป็นมากกว่าภาพวาด โดยเป็นการย้อนสำรวจเรื่องราวความทรงจำของฤดูกาลหน้าร้อนที่มีผลต่อความรู้สึก ที่จะพาคุณเดินทางย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความไร้เดียงสาและเสน่ห์ในวันวานที่ไม่อาจหวนคืน คุณจะได้พบกับฉากแห่งเสียงหัวเราะและความรัก บทสนทนาใต้แสงสีทองยามพลบค่ำ ความโหยหาที่มาพร้อมกับกาลเวลาที่ผ่านไป และความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย รอให้คุณมาค้นหาในงานนี้ พิกัด: ICONLUXE Pop Up Space ชั้น 1, ICONSIAM ระยะเวลา: วันนี้ - 30 เมษายน 2567 เวลา: 10:00 - 22:00 น. 5.Real Board Game baccpresents บอร์ดเกมในชีวิตจริง เล่นได้ทุกวันไม่ต้องกางกระดาน กรณ์ นียะพันธ์, โกศล ขจีไกรลาส และณัฐทพงศ์ รัตนโชคสิริกูล ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน "บันไดงู กทมฯ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว" ชวนผู้ชมมามีส่วนร่วมผ่านเกมจำลองการเอาตัวรอดในเมืองกรุง เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ผ่านบอร์ดเกมสุดหรรษา ที่ปัญหาและอุปสรรคในเกม อาจเป็นสิ่งที่คุณพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน พิกัด: BACC ระยะเวลา: วันนี้ - 19 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10:00 - 22:00 น. 6.WATCH ME NENE (นิทรรศการแรกของหนู) นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ เนเน่-นันทวรรณ แจ่มใส หรือ NNENE.IIE นักวาดภาพประกอบอิสระ หลงใหลในการบันทึกทุกอย่างในชีวิตผ่านการสเก๊ตช์ลงวัตถุรอบตัวตั้งแต่ สมุด สลิปใบเสร็จ ผนัง ถุงกระดาษ รวมถึงขยายไปเป็นภาพเคลื่อนไหว เพื่อที่จะทบทวนและมองเห็นตัวเองอยู่เสมอ จนนำมาสู่นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก‘นิทรรศการแรกของหนู’ (WATCH ME NENE) ที่จะพาทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในหน้าสมุดบันทึกและทำความรู้จักกันมากขึ้น พิกัด: KINJAI CONTEMPORARY ระยะเวลา: วันนี้ - 28 เมษายน 2567 เวลา: 11:30-18:30 น. (ปิดวันจันทร์และวันอังคาร) 7.Hong Kong Art Toy Story 2024 Hong Kong Art Toy Story จะยก Hong Kong Pavilion มาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในงาน Thailand Toy Expo 2024 โดยงานนี้ศิลปินที่ทุกคนชื่นชอบและศิลปินหน้าใหม่รวมทั้งสิ้น 20 ราย จะบินลัดฟ้ามาฝากผลงานน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับโชว์เคสอาร์ตทอยกว่า 300 ชิ้น และประติมากรรมขนาดใหญ่สูงถึง 1.5 เมตรที่ออกแบบและจัดทำขึ้นใหม่มาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชมกันในงานนี้เป็นครั้งแรก 20 ศิลปินฮ่องกงที่จะเดินทางมาจัดแสดงผลงาน นำโดย Winson Ma, Ryan Lee และ Rainbo ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ที่พาศิลปินรุ่นใหม่น่าจับตามอง ได้แก่ Aaron Lau, Anna Chan, Cheng Ki Kl, Gilbert Yam, Gino Lai, Joseph Tang, Keith Li, Leo Pak, LeonLollipop, Leung Kwok Kin, Lock Lai, Ricky Chan, Sunny Tam, Tomm Wong, Tony Leung, Felix Ip และ Mickey Mic มาพูดคุยศิลปินนักออกแบบชาวฮ่องกง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และขอลายเซ็นของพวกเขาอย่างใกล้ชิดได้ในงานนี้ พิกัด: Hong Kong Pavilion, โซน Dazzle ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระยะเวลา: 4 - 7 เมษายน 2567 เวลา: - 8.LANDSCAPE OF EMPTINESS (ภูมิทัศน์ของความว่างเปล่า) นิทรรศการ "ภูมิทัศน์ของความว่างเปล่า" ผลงานโดย สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ (Sanitas Pradittasnee) เมื่อเราอยู่ในห้วงสถานการณ์และเวลาของการเหม่อมองความเป็นไปของ “ความจริง” เราจะเห็นม่านหมอกจางๆของความว่างเปล่า หากแต่ความว่างเปล่านั้นมิได้เปลือยเปล่า เพราะในขณะเดียวกัน การที่เราจะรับรู้สภาวะความว่างดังกล่าวได้นั้น เราต้องรับรู้ความมีอยู่ของ “สิ่งที่ดำรงอยู่” ขอบเขตของความว่างจึงมีความจำเป็นต่อการปลดเปลือยเผยให้เห็นถึงการสลายหายไปจนนำไปสู่สภาวะแห่งความว่างเปล่า ในนิทรรศการภูมิทัศน์ของความว่างเปล่า สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ จึงได้สร้างสภาวะของการเข้าสู่ความว่างเปล่าที่จะพาผู้ชมเข้าไปสู่ห้วงสถานการณ์จำเพาะของพื้นที่และเวลา สู่มโนทัศน์ของการเข้าไปค้นหาความจริงในมิติของการเข้าไปสู่เขตแดน (ปริมณฑล) ของสภาวะการไร้รูปนาม ม่านหมอกของสาระแห่งการดำรงอยู่ได้นำพาผู้ชมให้เดินตามวิถีทางแห่งสัจจะของเวลาที่ทุกอย่างสลายแตกดับเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า พิกัด: หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร ระยะเวลา: วันนี้ - 8 มิถุนายน 2567 เวลา: - 9.ESIC LAB ESIC LAB สร้างสรรค์ผลงานชุด "มลภาวะทางเสียง ปัญหาสุขภาพคนเมืองที่กลับถูกมองข้าม" โดยในส่วนแรกของผลงานนั้น ได้มีการนำเสนอในรูปแบบ Generative Art นำเสนอข้อมูลระดับเดซิเบลในระยะเวลาย้อนหลัง 2 ปี (พ.ศ. 2564- 2565) ที่ได้จากสถานีตรวจวัดระดับความดังของเสียงใน 8 ย่านทั่วกรุงเทพฯ โดยใช้ค่าระดับเดซิเบลหรือความดังสูงสุดมาเชื่อมโยงกับค่าเฉลี่ยระดับเดซิเบลหรือความดังของแต่ละย่าน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของระดับความดังของเสียงที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา และผลงานอีกส่วนนำเสนอในรูปแบบ Sound Art นำเสนอสภาพแวดล้อมทางเสียงของกรุงเทพฯ จากการเก็บบันทึกเสียงที่เกิดจากการประกอบกิจกรรมและการดำเนินชีวิต แสดงถึงบรรยากาศวิถีชีวิตในแต่ละวันของชาวกรุงเทพฯ ที่ต่างต้องอาศัยอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบไปด้วยเสียงตลอดเวลา ผลงานชิ้นนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสั่นสะเทือนที่เกิดจากระดับความดังของเสียงรูปแบบต่างๆ ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจของคนในเมือง Beware! เสียงที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา (อาจ)เป็นมลพิษทางเสียง ที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไม่รู้ตัว พิกัด: BACC ระยะเวลา: วันนี้ - 19 พฤษภาคม 2567 เวลา: 10:00 - 22:00 น. ======================== ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของพวกเราได้ที่นี่ Facebook : Instagram : Twitter : Youtube

  • The Collective ได้รับรางวัล 'GOLD WINNER' of Architecture & Design Collection Awards 2023

    The Collective ได้รับรางวัล GOLD WINNER ของ Architecture & Design Collection Awards (ADCA) ในสาขา ARCHITECTURAL HOME DESIGN เรารู้สึกภูมิใจและดีใจมากๆครับ ที่ได้รางวัลและได้รับโอกาสในการสร้างผลงานนี้ เพราะ...งานนี้ถือมีความท้าทายอยู่มากพอสมควร ทั้งเรื่อง ข้อจำกัดทางสภาพแวดล้อม การทำรูปทรงอาคารให้โค้งมน การออกแบบเปลือกอาคารเพื่อป้องกันแสงแดดที่เข้าสู่อาคาร หรือแม้แต่การเลือกวัสดุให้ตอบรับกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เป็นต้น นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความท้าทาย และสร้างกำลังใจให้เราสร้างสรรค์ผลงานที่ดีต่อไปครับ ติดตามผลงานและแนวคิดการออกแบบฉบับเต็มได้ที่: https://www.ctstu.com/post/the-nest ทั้งนี้เราขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานครั้งนี้ด้วยครับ

  • 7 เทรนด์การออกแบบภายในที่มาแรงในปี 2024

    แต่งพื้นที่ของคุณให้สนุกกว่าเดิม ด้วยไอเดียออกแบบภายในที่น่าสนใจในปีนี้ ปี 2024 ใครที่กำลังต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ หรืออยากตกแต่งห้องใหม่ และไม่อยากตกเทรนด์ วันนี้ The Collective นำ 7 เทรนด์การออกแบบภายในที่มาแรงในปี 2024 มาให้รับชม เพื่อเป็นไอเดียการออกแบบ ที่จะทำให้คุณไม่ผิดหวัง และไม่ล้าสมัยอย่างแน่นอนครับ 7 ไอเดียงานออกแบบภายใน เติมนิดเสริมหน่อย ช่วยเปลี่ยนห้องได้เยอะ ในปี 2024 นี้ งานมินิมอลยังคงครองใจผู้คนอย่างต่อเนื่อง แต่การตกแต่งด้วยสีฉูดฉาดก็เริ่มได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยมีทั้งสไตล์การออกแบบภายในที่เน้นเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ Built In และการตกแต่งกำแพง เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจมากทีเดียว 1. ออกแบบภายในโดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมน BE AMAZING BY THE COLLECTIVE เนื่องจากเทรนด์ศตวรรษที่ 80 กลับมามีกระแสอีกครั้งในปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนจึงกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากเดิมช่วงกลางศตวรรษที่ 50 และ 60 มีแต่การใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นเส้นตรงที่ดูหนักแน่น อีกทั้งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมน โดยทั่วไปเราจะเห็นได้จากโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ในส่วนของพื้นที่ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือ ห้องนอนเสมอ เนื่องจากความโค้งบ่งบอกถึงความสงบ เรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบาย มีความเป็นกันเอง ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถนำไป Mix and Match กับเฟอร์นิเจอร์เดิมในรูปทรงต่างๆได้อย่างลงตัว 2. Quiet Luxury งานออกแบบภายในที่สไตล์มีมูลค่าไม่แพ้เงิน PATREEDA AVENUE PATHUMTHANI 2 BY THE COLLECTIVE “Quiet Luxury” เทรนด์ฮิตติดกระแสจากคำค้นหา ที่มียอดเข้าชมมากกว่า 3.5 หมื่นล้านครั้งบน TikTok เมื่อไม่นานมานี้ หรือที่เรารู้จักกันดี ในวลีที่ว่า “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” ซึ่งหากพูดในเชิงพาณิชย์ “Quiet Luxury” หมายถึง ความเรียบหรูที่ใช้วัสดุในคุณภาพสูง แต่ในเชิงของการออกแบบภายใน คำว่า ‘น้อย’ คือ การออกแบบที่ภายนอกดูน้อย แต่กลับซ่อนรายละเอียด ที่เหล่านักออกแบบใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการออกแบบแต่ละจุด และในอีกแง่มุมหนึ่ง “Quiet Luxury” ยังเป็นการบ่งบอกถึงสไตล์มากกว่าการบ่งบอกถึงแบรนด์ที่มีราคาสูง หรือการใช้วัสดุเกรดพรีเมียมในการตกแต่งซะมากกว่าครับ 3. การเลือกใช้ไม้โทนสีเข้ม งานออกแบบภายในสุดคลาสสิก SARANSIRI-SAIMAI BY THE COLLECTIVE แม้เทรนด์การออกแบบภายในสไตล์มินิมอล ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ที่เน้นการไม้โทนสีอ่อนหรือสีไม้โทนอบอุ่น เน้นความเรียบง่าย ดูสบายตา เหมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ในปี 2024 สไตล์การตกแต่งไม้โทนสีเข้มจะเป็นที่นิยมมากขึ้น จากสไตล์ความชอบที่เปลี่ยนไปของผู้คนในปัจจุบัน เช่น การใช้วัสดุเชาสุกิบัน การเลือกใช้ไม้โทนสีเข้มหรือไม้โอ๊คสีเทาเข้ม ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู เต็มไปด้วยความคลาสสิก ในสไตล์วินเทจ 4. งานออกแบบภายในสไตล์คันทรี่ด้วยการตกแต่งผนังด้วยอิฐ PLEASE DON’T TELL BY THE COLLECTIVE เมื่อนึกถึงบ้านที่สร้างจากอิฐ เน้นการโชว์พื้นผิว หลายคนคงนึกภาพ ‘บ้านสไตล์คันทรี่’ ที่เราจะเห็นได้ตามตึกหรืออาคารในต่างประเทศ หรือแม้ที่ประเทศไทยเอง ในยุคสมัยก่อน ที่ใช้อิฐมอญเป็นวัสดุสำหรับก่อสร้างหรือ ตกแต่งบ้าน ทั้งนี้การตกแต่งผนังด้วยอิฐ จะกลับมามีบทบาทเพิ่มขึ้นอีกในปี 2024 ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ต้องไปด้วยมนต์เสน่ห์ของสไตล์ร่วมสมัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นผิวที่ต่างออกไปจากผนังเรียบที่เราเห็นได้ทั่วไป และในส่วนนี้เอง ผมเรียกว่า “การนำกลับมาใช้ใหม่” ที่ไม่ใช่การใช้วัสดุ Recycel แต่เป็นการนำวัสดุที่ได้รับความนิยมสมัยก่อน นำกลับมาใช้ใหม่ เช่น การตกแต่งผนังด้วยอิฐ หน้าต่างโบราณ หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทเรโทร เป็นต้น แต่ข้อจำกัดของอิฐ คือ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนาน ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาวัสดุทดแทนขึ้น นั่นคือ ‘Tiled Brick’ หรือ ‘กระเบื้องอิฐ’ ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายด้วยลวดลายที่มีให้เลือกหลากหลาย มีผิวสัมผัสเสมือนจริง และสามารถนำไปตกแต่งที่เข้าได้กับทุกสไตล์ 5. ตกแต่งบ้านด้วยสีฉูดฉาด ปลุกชีวิตให้งานออกแบบภายใน TENDER @TENDERLION BY THE COLLECTIVE สีเอิร์ทโทน โทนสีเบจ หลบไป เพราะ “Bold Color” หรือ “สีฉูดฉาด” กำลังกลับมาและคาดว่าจะติดเทรนด์ในปีถัดๆไป การทาสีบ้านหรือเลือกใช้ของตกแต่งสีฉูดฉาด มักจะมาพร้อมกับลวดลายดีไซน์ที่ดูแปลกตา แต่สิ่งสำคัญในการออกแบบภายใน คือ ต้องทำให้สีสมดุลกันเพื่อไม่ให้สีมากเกินไปจนล้นพื้นที่และดูลายตา โดยอาจจะเป็นการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สีโดดเด่นเพียงหนึ่งถึงสองสีเพื่อเพิ่มความสนใจและดูคุมโทนไปกับสีภายในห้อง 6. ตกแต่งห้องเด็กด้วยสีสันโดดเด่น สไตล์การออกแบบภายในที่จะทำให้หลงรักกันทั้งบ้าน การเลือกทาสีบ้าน ทุกคนคงจะเลือกทาสีที่เป็นการคุมโทนสีห้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ห้องครัว ห้องนอน ห้องรับแขก เว้นแต่การทาสีใน “ห้องเด็ก” เหตุเพราะห้องเด็กควรเป็นห้องที่โดดเด่นและน่าสนใจด้วยสีสันสดใส เพราะสีมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกที่ดีในการสร้างจินตนาการและพัฒนาการของเด็ก นอกจากการเลือกสีทาบ้านแล้ว ของตกแต่งก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรคำนึงถึงเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟ ภาพวาดการ์ตูน โต๊ะ เก้าอี้ พรมที่มีลวดลายแปลกตา หรือของเล่นต่างๆ ที่ส่งผลต่อในการกระตุ้นพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก 7. การทำเฟอร์นิเจอร์ซ่อนฟังก์ชันการใช้งาน ไอเดียออกแบบภายในสุดล้ำสมยุคสมัย https://www.pinterest.com/pin/48554502213734322/ ในปี 2024 การตกแต่งจะเอนไปทางการออกแบบที่มี “การทำเฟอร์นิเจอร์ซ่อนฟังก์ชันการใช้งาน” ด้วยสไตล์การออกแบบภายในที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น การทำเคาน์เตอร์ครัวซ่อนโต๊ะและเก้าอี้ การซ่อนลิ้นชักไว้ชั้นล่างเตียงนอน เป็นต้น เพื่อความเป็นระเบียบ และทำให้บ้านดูเรียบร้อย สะอาดตามากขึ้น อ้างอิง: https://www.forbes.com/sites/amandalauren/2024/01/04/these-are-the-top-interior-design-trends-for-2024/?sh=5ff54802935f The Collective “ผู้เชี่ยวชาญด้านรับออกแบบตกแต่งภายใน ออกแบบสถาปัตยกรรม และกลยุทธ์แบรนด์ โดยกลุ่มสถาปนิก และนักออกแบบมืออาชีพในทุกสาขาวิชา มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสูง เพื่อให้เกิดคุณค่าที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของคุณ” สนใจบริการออกแบบภายใน ติดต่อ The Collective Studio บริษัทออกแบบตกแต่งภายในและอินทีเรียดีไซน์ มองหา บริษัทออกแบบภายใน หรืออินทีเรียดีไซน์ ติดต่อ The Collective Studio Tel. (+66) 094 442 4652 Email : collectivetalk@gmail.com Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio/ Instagram : https://www.instagram.com/thecollectivestudio/ Youtube : https://www.youtube.com/thecollectivestudio Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK

  • The Collective ร่วมงานแถลงข่าว “โครงการประกวดออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์” Too Fast To Sleep - คลองเตย

    The Collective ได้รับเชิญจาก Too Fast To Sleep ร่วมงานแถลงข่าว “โครงการประกวดออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์” Too Fast To Sleep - คลองเตย สำหรับนิสิตจุฬาฯ ภายใต้แนวคิด "Vision to Action" การสร้างแหล่วงมั่วสุมทางปัญญาให้กับชุมชนเพื่อให้ความรู้และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน ณ Metro Mall (MRT คลองเตย) ที่จัดขึ้นโดย Too Fast To Sleep ร่วมกับทีม บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วง บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณาและพื้นที่จัดกิจกรรมในระบบรถไฟฟ้า MRT และทางด่วน พร้อมด้วยภาควิชาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งในการจัดงานแถลงข่าว“โครงการประกวดออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์”ครั้งนี้ คุณกอบชัย ลิมปนเทวินทร์ (กอล์ฟ) ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการไปร่วมพูดคุยในฐานะกรรมการตัดสิน และศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ Team Strategy : Design to Win เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแชร์ประสบการณ์การทำงานของการเป็นนักวิชาชีพในด้านออกแบบให้กับน้องๆนิสิตจุฬาฯที่เข้าร่วมประกวดการออกแบบในครั้งนี้ Team Strategy : Design to Win การสร้างกลยุทธ์ในการแข่งขันเพื่อชัยชนะ หัวใจสำคัญอย่างแรก คือ 'การตั้งเป้าหมาย' ว่า เรามาที่นี่เพื่ออะไร? เราทำงานนี้เพื่ออะไร? และบรีฟที่เราได้รับมาจะนำไปคิดต่อยังไงดี? เพื่อสร้างกลยุทธ์การทำงานนั้นๆร่วมกับทีม จนสามารถบรรลุเป้าหมาย(The Winner) ไปได้สำเร็จ เพราะการประกวด'ออกแบบ' ไม่เหมือนกับ 'การแข่งขันกีฬา' การแข่งขันกีฬา คนที่ทำผลงานดีที่สุดคือผู้ชนะ แต่การออกแบบผู้ที่เก่งที่สุดไม่ได้แปลว่าจะชนะเสมอไปครับ เพราะการออกแบบไม่ได้ตัดสินกันมิติเดียวเท่านั้น แต่มีรายละเอียดในการตัดสินหลายอย่าง ทั้งเรื่อง แนวความคิด ฟังก์ชันการใช้งาน บริบทของผู้ใช้พื้นที่ สภาพแวดล้อม เป็นต้น เพราะฉะนั้นทุกคนมีโอกาสที่จะชนะเท่าๆกัน อยู่ที่ใครจะมีกลยุทธ์ในการเอาชนะโจทย์ กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการทำงานได้ดีกว่ากัน ส่งผลงานได้ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 และประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 5 ทีมสุดท้ายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ ติดตามผลงานที่เข้ารอบและได้รับรางวัลของนิสิตที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้ทางสื่อออนไลน์ของ Too Fast To Sleep ครับ

bottom of page