Search Results

Category : F&B Design by : Collective Studio Location : Bangkok ,thailand "คิด เช่น ลาว" งานออกแบบปรับปรุงร้านอาหารที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เปลี่ยนทั้งชื่อร้าน เปลี่ยนทั้งลุคหน้าตาใหม่หมด concept ร้านนำเสนอวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นอุษาคเนย์ ที่มีทั้งอาหารไทย อีสาน ลาว และญวณ ผสมคลุกเคล้าเข้ากันแบบนัวๆ ออกมาเป็นงานออกแบบอย่างที่เห็น

Category : F&B Design by : Collective Studio Constructed by : Senglao Construction Location : Vientiane, Lao Completed : March 2018 Photo Credit : Kopchai Limpanataywin งานออกแบบร้าน Kaogee Cafe' คาเฟ่​สุดเก๋แห่ง สปป.ลาว, เวียงจันทน์ ผลงานออกแบบล่าสุดของพวกเรา Collective Studio เริ่มด้วยชื่อร้าน "ข้าวจี่" ซึ่งมีที่มาจากเมนูหลักของร้าน ข้าวจี่เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของคนลาวมานานหลายสิบปี แต่ไม่เหมือนข้าวจี่ของทางอีสานที่จะเป็นข้าวเหนียวชุบไข่แล้วไปปิ้งไฟ เพราะข้าวจี่ของทางลาวนั้นเป็นขนมปังที่ทำจากข้าว หน้าตาละม้ายคล้ายกับขนมปังฝรั่งเศส เพราะได้รับอิทธิพลมาตอนสมัยฝรั่งเศสปกครองลาว ตัวเมนูนี้ก็เลยเกิดเป็นลูกผสมขนมปังแต่มีไส้ต่างๆ ใส่อยู่เยอะแยะมากมาย ซึ่งก็จะหากินได้ทั่วๆไป เป็น street food อย่างนึงของเวียงจันทน์เลย แต่เมนูข้าวจี่ที่ร้าน KAOGEE CAFE แห่งนี้ ไม่เหมือนทั่วๆไป เพราะมีการนำมาดัดแปลงปรับปรุงให้ดูน่าสนใจขึ้น สนุกขึ้น อันนี้ลองตามไปดูที่เพจร้านได้ https://www.facebook.com/KaogeeCafe/ ทีนี้มาถึงงานออกแบบของพวกเรากันบ้าง เราได้รับการติดต่อให้ออกแบบร้านสาขา 3 และสาขา 4 ซึ่งจะเปิดพร้อมๆกัน หลังจากที่ 2 สาขาแรกประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็นิยมมาร้านนี้กัน โดยตัว concept ที่พวกเราคิดกันขึ้นมาก็คือการผสมผสาน ระหว่างเรื่องราวเมนูข้าวจี่ กับเมนูกาแฟ ที่เป็นจุดหลักๆของร้านสองอย่าง ตัวเมนูข้าวจี่นั้นมีที่มาจากขนมปังฝรั่งเศส "บาแกตต์" ซึ่งเจ้าขนมปังชนิดนี้ก็มีต้นกำเนิดที่ยาวนานไปกว่านั้นอีก เราจึงดึงเอาอารมณ์ของโรงอบขนมปังแบบโบราณสไตล์ฝรั่งเศสมาใช้ในงานตกแต่งให้ได้บรรยากาศแบบโรงงาน โรงอบขนมปังวินเทจ ในส่วนของงานกาแฟนั้น เรานำเสนอเรื่องราวของกาแฟพื้นถิ่นที่เป็นของลาวเองผ่านของตกแต่งต่างๆที่สื่อถึงความเป็นชนบทของลาวในงานออกแบบด้วยเช่นกัน ด้วยการใช้เมล็ดกาแฟและ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่สื่อถึงความเป็นพื้นถิ่นเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมตะวันตก เราพยายามเชื่อมโยงจุดเด่นต่างๆของสองสาขาแรกไว้ เพื่อให้มีความเชื่อมโยงกัน และก็เพิ่มรายละเอียดบางอย่างเข้าไป เพื่อให้มีความแตกต่างกันของแต่ละสาขา ตามโจทย์ที่ว่าอยากให้คนมาร้านแต่ละสาขาแล้วได้รายละเอียดที่แตกต่างกัน และอยากจะไปนั่งให้ครบทุกสาขา ใครมาเที่ยวลาว มาเวียงจันทน์ มีโอกาสก็อยากให้แวะมาลองชิมลองสัมผัสบรรยากาศกันดู ตอนนี้มี 4 สาขา และล่าสุดที่หลวงพระบางก็เปิดแล้วอีกสาขาด้วย บอกเลยว่านอกจากร้านสวยแล้ว อาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่มก็สุดยอดไม่แพ้กัน

Collective Studio ต้องการทีมงานเพื่อลุยงานมันส์ๆ เพิ่มในตำแหน่ง Architect / interior Designer - สาขาสาทร Paperwork สาทร ซ.9 โอกาสร่วมงานของคนรุ่นใหม่ในเมืองมาแล้ว วิธีการสมัครและสัมภาษณ์ - ส่งผลงาน ประวัติ รายละเอียดให้ครบถ้วนทางอีเมล์ เพื่อพิจารณานัดสัมภาษณ์มาที่ collectiveofficer@gmail.com - โทรถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-948-2501 / 092-258-2533 คุณสมบัติ - ไม่จำกัดเพศ - อายุ 25-35 ปี - ประสบการณ์ 2 ปี ขึ้นไป - การศึกษา ปริญญาตรี (สถาปัตยกรรม / ตกแต่งภายใน) - สามารถใช้โปรแกรมออกแบบ AutoCAD / 3dsmax / Sketchup / MS-Office ได้เป็นอย่างดี - สามารถจัดทำ Presentation และนำเสนองานได้ - มีความขยัน อดทน กระตือรือร้นในการทำงานและพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ - มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี 25 Sathorn 9, 2nd Floor, KS Building,Sathorn tai road, Yannawa, Sathorn Bangkok, Thailand 10120

AWARD WINNER Retail Interior Thailand NT Motorsport Kawasaki Showroom by Collective Studio Co.,Ltd. Collective Studio ได้รับรางวัล Award Winner ในสาขา Retail Interior Thailand จากผลงานออกแบบร้าน NT Motorsport Kawasaki Showroom

Category : Hotel Location : Roi-et, Thailand Owner : Maithai Hotel Year : 2018 งานออกแบบโรงแรมที่คงเอกลักษณ์เมืองร้อยเอ็ดให้เข้ากับยุคสมัยยิ่งขึ้น งานปรับปรุงและออกแบบโรงแรม โรงแรมไหมไทย สถานที่ที่อยู่คู่กับจังหวัดร้อยเอ็ดมายาวนาน เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็ถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป งานนี้เป็นงาน Conceptual เพื่อนำเสนอแนวทางการปรับปรุงให้ลูกค้า ด้วยการจับมือกับพันธมิตรของเรา Paperspace เพื่อระดมความคิดที่น่าสนใจ ในการทำงานครั้งนี้เราเน้นการปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ ใส่เรื่องราวของการออกแบบโรงแรมเข้าไป ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายคุณก็เป็นคนใหม่ที่ทันสมัย ไฉไลได้ The Collective Studio Co., Ltd. Architectural & Interior Design www.ctstu.com Tel. 094 442 4652 Email: collectivetalk@gmail.com ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่ Line : Facebook : Instagram : Twitter : Website : Youtube

ภาพบรรยากาศงาน Meeting ของ Paperspace Member เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยคุณกอบชัย ได้ร่วมแบ่งปันแนวความคิด วิธีการทำงาน และความสนุกในการทำ Project ที่ผ่านมาให้กับ Member ได้รับฟังกัน

Category : Pub Designed by : The Collective Studio Production by : Horniwork Specialist Location : Bangkok,Thailand Area : 300 Sq.m. Year : 2018 HOUSE เอกมัย บ้านใหม่แห่งการสังสรรค์ งานออกแบบร้าน HOUSE สาขาเอกมัย ที่เป็นสาขา 2 หลังจากประสบความสำเร็จกับสาขาที่รังสิตมานานพอสมควร ถึงเวลาที่จะเปิดตัวสู่ใจกลางกรุงบ้างแล้ว เราเลยได้มาเป็นผู้ช่วยให้คำแนะนำในการปรับปรุงสถานที่เดิม ให้กลายเป็น "HOUSE" ที่เป็นบ้านแห่งความบันเทิงใหม่ของชาวเอกมัย Existing หน้างานสถานที่เดิมก็มีความน่าสนใจ เพราะมีชั้นลอย และเป็นโถงสูง จึงทำให้เกิดที่มาของการออกแบบในธีม House Party - POP Culture เราหยิบเอาวัฒนธรรมอเมริกันปาร์ตี้ที่นิยมจัดกันในบ้านแบบ Pop Culture ของเหล่าวัยรุ่นไฮสคูลและมหาวิทยาลัยมาเป็นธีมในการออกแบบ เพื่อเป็นการสร้างคอนเซพท์ให้สอดคล้องกับชื่อร้านเพื่อเป็นภาพจำต่อไป การตกแต่งก็นำเอาของใช้ในชีวิตประจำวันมาประดับให้เป็นงานศิลปะแบบสนุกๆ สื่อสารความเป็น PoP Art ผ่านสื่อ Installation และ Grafitti ขอบคุณภาพจากเพจ House Ekkamai ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่ Line : Facebook : Instagram : Twitter : Website : Youtube #thecollectivestudio #designsolution

ขอบคุณ Dsign Something ที่ได้สัมภาษณ์แนวคิดในการทำงาน และแนวทางการออกแบบโครงการต่างๆของเราครับ เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://dsignsomething.com/2018/02/27/dsigner-directory-collective-studio/

ความบังเอิญทำให้เราไปมีโอกาสมาสัมผัสร้านอาหารไทยในโอซาก้าในคืนหนึ่งที่ Hatena สวัสดีปีใหม่... ปี 2018 อาจจะช้าไปนิดนึงแต่ยังอยู่ในเดือนมกราคมคิดว่ายังพอสวัสดีปีใหม่ได้ ด้วยความที่งานค่อนข้างยุ่งทำให้ คอลัมน์ต่างๆอาจจะดูขาดหายไปบ้าง ปีนี้ขอเริ่มด้วยเรื่องราวที่พวกเราเดินทางไปมาล่าสุดดีกว่า ในทริปดูงานออกแบบโรงแรมของเราที่ Osaka - Kyoto เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คืนสุดท้ายหลังจากที่เดินเล่นอยู่แถวๆโรงแรมที่พัก ขากลับบังเอิญเดินเจอร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง "Hatena โอซาก้า" ด้วยความที่นั่งดื่มร้านญี่ปุ่นๆมาหลายร้านแล้ว เราเลยตกลงใจเข้าไปนั่งดื่มปิดท้ายทริปในร้านอาหารไทยแห่งนั้น เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน ผมเหมือนตัดขาดจากเมืองโอซาก้าชั่วขณะ... ผมว่าความเป็นไทยมันไม่ใช่รูปแบบของศิลปะหรือวัฒนธรรม มันคือวิถีชีวิต คือสันดานแบบคนไทย ที่สัมผัสปุ๊บก็รู้เลยว่ามันใช่ เพราะในร้านนี้ไม่มีรูปแบบศิลปะที่มันไท๊ยไทย ไม่มีลายกนก ไม่มีลายไทย ไม่มีผ้าไทย แต่เป็นของที่เป็นสัญลักษณ์ ที่คนไทยเห็นก็คงเข้าใจ ลองดูสิ แค่ดูเมนูก็โคตรจะไทยแล้ว แม้จะเป็นคนญี่ปุ่นเต็มร้าน มีแค่พวกเราที่เป็นลูกค้าคนไทย ผมก็ไม่รู้สึกว่าเป็นร้านญี่ปุ่น มันมีความสนุกสนานแบบไทยๆลอยอยู่ อย่างว่า เราดื่มกินร้องเพลงอะไรก็ไม่สนุกปากเท่าร้องเพลงไทยหรอก ผมคิดถึงร้านนั่งดื่มที่มีกลิ่นอายแบบนี้ที่เคยนั่งในสมัยก่อน ร้านที่แต่งโดยเจ้าของร้าน ที่ดูเหมือนแต่งไปมั่วๆ อยากเอาอะไรมาโชว์ก็ใส่ไป อาจจะดูรกๆ ไม่มีไฮไลท์ ไม่ปัง แต่ผมรู้สึกว่าบางทีร้านที่รกๆแบบนี้มันกลับมีเสน่ห์ในบางอย่างที่ร้านออกแบบดีๆโดยนักออกแบบให้ไม่ได้ (อ้าว เป็นงั้นไป) ร้านบางประเภท เช่น ร้านอาหารพื้นเมือง หรือร้านขายสินค้าที่มีลักษณะ craft handmade ถ้าออกแบบจริงจังเกินไป เมื่อใช้งานบางทีมันแข็งไป มันประดิษฐ์มากไป มันต้องมีความเป็นธรรมชาติเข้ามาบ้าง ร้านจะดูมีชีวิต มีความสัมพันธ์ของผู้คนอยู่ในนั้น และมันต้องแสดงถึงตัวตนของเจ้าของร้าน มีคาแรคเตอร์ โดยที่มีการใช้งานที่ดี ยำวุ้นเส้นกับข้อไก่ทอดกับแกล้มในคืนนั้น ชนะอิซากะยะไก่เสียบไม้ปิ้งหรือเนื้อย่าง A5 ร้านอื่นๆจนขาดลอย นั่งตกผลึกทางความคิดกันไปด้วยเบียร์คนละสองขวด ถึงแนวทางการทำงานของเรา หลังจากที่มุ่งเป้าเรื่องงานที่มี Storytelling ในปีที่แล้วทำให้เป้าหมายในการออกแบบในปีนี้ คือ การออกแบบร้านที่มีชีวิต อาจจะดู Abstract แต่ว่ารอดูละกันครับว่าเราจะทำมันออกมายังไงบ้าง และจะไปได้ไกลถึงจุดไหน ถ้าใครได้ไปเล่นช๊อปปิ้งแถว Shinsaibashi ลองกด Google หาดูร้าน Hatena โอซาก้า แล้วลอง "บังเอิญ" แวะไปนั่งดื่มสักแก้ว แล้วคุณจะอยากกลับบ้าน... ======================== อัปเดตและติดตามข่าวสารของพวกเราได้ที่ Line : https://line.me/R/ti/p/%40618kfgir Facebook : https://www.facebook.com/TheCollectiveStudio Instagram : http://bit.ly/3bECtyL Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK Youtube : http://bit.ly/2vDXgC8 Tiktok : https://www.tiktok.com/@thecollectivestudio

เรื่องหนึ่งที่เมื่อเรารับงานออกแบบมาจะรีบถามเสมอว่า จะตั้งตี่จู้เอี๊ยหรือไม่? อาจจะเป็นคำถามที่ผู้ออกแบบทั่วไปไม่ค่อยถามเท่าไหร่ อยากจะหลีกเลี่ยงเพราะกลัวจะทำให้งานออกแบบดูไม่สวย ยิ่งบ้านสไตล์โมเดิร์นยิ่งไม่ค่อยเข้า ไม่ค่อยอยากใส่ในภาพ Perspective ออกแบบเสร็จแล้วเจ้าของค่อยมาตั้งเอาทีหลัง " ผมว่านั่นยิ่งเป็นการหนีปัญหา ของถ้ามันต้องมี เราก็ต้องใส่เพราะมันเป็นเรื่องจริง !!!" วันนี้เลยเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังดีกว่าว่าเราจะทำยังไงได้บ้าง... ตามความเชื่อของชาวจีน "ตี่จู้" คือเจ้าที่ของบ้าน เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลปกปักรักษาผู้อยู่อาศัยในบ้าน นิยมตั้งไว้ชั้นล่างของบ้าน ติดพื้นดิน ด้านหลังควรเป็นที่นิ่งหนักแน่น ด้านหน้าต้องโล่งและหันออกไปทางประตูบ้านที่มองเห็นได้ชัดเจน เมื่อมีเทพมาอาศัยอยู่ในบ้าน จะได้นำมาซึ่งความสมบูรณ์พูนสุข ช่วยเสริมชะตา ช่วยเรียกทรัพย์เข้าบ้าน (สำคัญตรงนี้แหละ... ที่ทำให้คนไทยหลายคนไม่ได้มีเชื้อสายจีนก็นิยมตั้งด้วย) แล้วยังไงจะสวย ??? ....ก็เริ่มจากการเลือกรูปแบบให้เหมาะสมเป็นสิ่งแรก.... เดี๋ยวนี้มีผู้ผลิตทำออกมาขายหลายแบบมากขึ้น ไม่ได้มีแต่แบบไม้สีแดงๆอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน คนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ยึดติดกับรูปลักษณ์ว่าต้องเป็นแบบเดิมๆก็นิยมใช้รูปแบบใหม่ๆกัน มีให้เลือกวัสดุทั้งเป็นไม้ หินอ่อน หินสังเคราะห์ สีก็มีทั้งสีแดงสีขาว ขนาดก็เลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ มีตั้งแต่ขนาด 12 -36 นิ้ว ผู้ใหญ่หลายคนชอบให้เลือกใหญ่ๆไว้ก่อน แต่ถ้าใหญ่ไปบ้านอาจจะเป็นศาลเจ้าได้ เอาที่พอเหมาะเถอะนะ 1. ทำให้กลมกลืนกับพื้นที่ งานออกแบบภายในบ้านในโครงการมัณฑณาที่เจ้าของชอบแนวไม้ๆ เราเลยออกแบบให้ซุ้มวางตี่จู้เอี๊ยดูกลืนกันไปกับชั้นวางของตกแต่งแบบที่เห็น ซึ่งก็จะไม่สะดุดตานัก เมื่อทำซุ้มที่ใช้วัสดุ และโทนสีกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบ ก็จะทำให้สีแดงของตี่จู้ไม่เด่นจนเกินไป ทำให้อยู่ร่วมกับห้องนั่งเล่นดูไม่ขัดเขินจนเกินไปนัก 2. ตกแต่งให้เป็นประธานของบ้าน ไหนๆก็ต้องตั้งให้รับกับประตูบ้านแล้ว จัดให้เป็นจุดเด่นซะเลย ให้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล บ้านหลังนี้ที่เราออกแบบเป็นลอฟท์จีนๆ เลยทำที่ตั้งตี่จู้เอี๊ยเป็นจุดเด่นของทางเข้าบ้านตกแต่งผนัง ติดไฟแสงสว่าง ทำบรรยากาศรอบๆให้สวยงามน่าชม 3. สร้างเรื่องราวให้มุมตี่จู้เอี้ย ไอเดียในการออกแบบส่วนต้อนรับของสำนักงานแห่งนี้ เนื่องจากเป็นบริษัทสิ่งพิมพ์เลยเน้นสีแดงให้เด่นไปเลย แล้วใส่ เบอร์ Pantone ข้างหลังให้เข้ากับงานของบริษัทไปเลย ทำให้มุมนี้เป็นจุดที่สื่อสารเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ สิ่งศักดิ์สิทธ์ประจำบ้านมีไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี รูปแบบต่างๆกันไปตามความเชื่อของแต่ละคนทำอะไรก็ได้ที่เราสบายใจ ถ้าผู้อยู่อาศัยสบายใจชีวิตก็จะมีความสุข.... โชคลาภและความสำเร็จก็จะตามมา ---------------------------------------- The Collective Studio Co., Ltd. Architecture & Interior Design www.ctstu.com Tel. 094 442 4652 Email: collectivetalk@gmail.com ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่ Line : Facebook : Instagram : Twitter : Website : Youtube

เคยไหมที่อยากจะตกแต่งร้านค้าของตัวเองแล้วไม่รู้จะแต่งอย่างไรดี รู้แต่ว่าชอบสไตล์นี้ แต่ไม่รู้ทำยังไงจะสวย ทำไมแต่งร้านดูมั่วๆ แต่ดูสวย ทำไมบางร้านดูแต่งง่ายๆ แต่ดูดี ………………………………… อยากได้ร้านสไตล์ ลอฟท์ๆ อินดัสเทรียล แต่ไม่อยากให้ซ้ำกับคนอื่นจะทำยังไงดี?" "อยากได้งานโมเดิร์น แต่ไม่เรียบจนเกินไป ขอมีอะไรนิดนึง?" ประโยคคำพูดเหล่านี้ ถ้าไปบอกนักออกแบบหลายๆคนอาจจะเกิดอาการเบะปากมองบนได้ แต่สำหรับพวกเราเจอบ่อยจน เข้าใจว่าทุกคนต้องการอะไร องค์ประกอบของแต่ละสไตล์ก็มีองค์ประกอบของมัน เช่น ลอฟท์ก็ใช้ ไม้เก่า เหล็ก กระจก ท่อ  ผนังอิฐ ฯลฯ จะคลาสสิคก็บัวไม้ กรอบลูกฟัก ผนังสีพ่นเรียบ โคมระย้า ฯลฯ แล้วมันจะต่างจากของคนอื่นยังไง แต่ละแบบก็ทำมาเป็นร้อยเป็นพันที่ ......................................... การออกแบบก็เหมือนภาษาพูด เคยไหมที่คุยกับเพื่อนแล้วรู้สึกว่าเพื่อนบางคนเล่าเรื่องสนุก เวลาฟังเรื่องตลกก็ขำขี้แตกขี้แตน ฟังเรื่องเศร้าก็อิน หรือเมาท์เรื่องชาวบ้านก็มันส์ ทั้งๆที่มันก็ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ทำไมมันเล่าแล้วสนุก เช่นเดียวกับงานออกแบบแหละครับองค์ประกอบของงานออกแบบก็เหมือนภาษาพูดที่สื่อสารอะไรบางอย่างให้คนรับรู้ยกตัวอย่างเช่นตอนออกแบบงานกองบิน ๖๐๑ หลังจากที่ไปดูพื้นที่เราคิดถึงเรื่องราวนักบินในยุคก่อน เห็นภาพคลับของสุภาพบุรุษนักบินสังสรรค์พูดคุยกันในสถานที่แห่งนั้น งาน Missuri ก็นึกถึงเรื่องของความคลาสสิคที่โดนเอเลี่ยนความสมัยใหม่เลื้อยมากัดกลืนไป งานKawasaki ก็นึกถึงบรรยากาศของโรงงานในยุคหลังสงครามโลก หรืออย่างงาน Columbus ที่เพิ่งเล่าไป (ตามไปอ่านดูนะ) ........................................... ถ้าเราอยากจะตกแต่งร้าน กิจการ หรือห้องอะไรสักอย่างของตัวเอง แล้วไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองคิดเรื่องราวในหัวขึ้นมาก่อน สร้างบรรยากาศในจินตนาการคร่าวๆขึ้นมาก่อน เมื่อเลือกองค์ประกอบมาตกแต่งภายในก็ง่าย เพราะคุณมีภาพในหัวแล้ว ---------------------------------------- The Collective Studio Co., Ltd. Architecture & Interior Design www.ctstu.com Tel. 094 442 4652 Email: collectivetalk@gmail.com ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่ Line : Facebook : Instagram : Twitter : Website : Youtube

ถ้าวันนี้เราอยากจะกินอาหารไทยในห้างสรรพสินค้าสักแห่งหนึ่งเราจะกินร้านไหนดี.... เป็นคำถามที่ชวนคิดที่ดูเหมือนจะง่ายแต่เอาจริงๆผมว่าก็ตอบยากอยู่ ท่ามกลางร้านอาหารมากมายในห้างสรรพสินค้าในยุคนี้ สัดส่วนร้านอาหารไทยถือว่าน้อยมาก ถ้าไม่นับพวกร้านก๋วยเตี๋ยว อาหารจีนด้วยนะ บางทีหันไปมองรอบตัวก็เห็นแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นกับร้านเกาหลี ร้านอาหารอาหารไทยที่มีอยู่ก็ราคาสูงขึ้นๆ เรื่อยๆ ความเป็นเอกลักษณ์ไทยตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผม ไปยันที่อยู่อาศัย อาหารการกินกำลังถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่สามารถเอาสิ่งที่มีอยู่มาปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้ การแสดงแบบโบราณก็ถูกแช่แข็ง ไม่ให้ใครมาแตะต้องหรือเอามาปรับได้ โถ่ ป้า!! กว่ามันจะมาถึงจุดที่ลงตัวเค้าก็ปรับกันมาเยอะแล้ว คิดไปเองว่ามันต้องอยู่บนหิ้ง จนหลานแก่ก็ยังคงเล่นเรื่องรามเกียรติ์อยู่อย่างนั้นแหละ ประเทศเรามีนักการตลาดอยู่เต็มประเทศ แต่ไม่ค่อยมีใครสร้างแบรนด์ไทยให้คนไทยชอบและติดได้มากนัก ส่วนมากมักชอบปั้นแบรนด์ให้สูงขึ้นเรื่อยๆจนคนไทยเองแตะไม่ถึง ต่างประเทศเค้าปั้นแบรนด์ให้ผู้บริโภคใช้ เข้าถึงง่าย และสัมผัสมัน แต่คนไทยปั้นแบรนด์ไทยให้ดูสวยและสูงค่า ครั้งนึงผมไปทำงานที่ประเทศเยอรมนี ได้นั่งคุยกับพี่ที่อาศัยอยู่ที่โน่นเค้าบอกว่าคนไทยเป็นที่รู้จักของคนที่นี่มาก เพราะจะมาปูเสื่อนั่งตำส้มตำสังสรรค์เมาท์มอยกันที่สวนสาธารณะในวันอาทิตย์ นั่นคือแบรนดิ้งของสาวไทยในสายตาชาวเยอรมัน และชาวยุโรป ก็ต้องยอมรับความจริงว่าสาวไทยแท้ๆกว่า 50% ของประเทศเรา ไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาเกาหลีเดินพารากอน กินซูชิ นั่นมันแค่ส่วนน้อยของคนประเทศนี้ ทำไมเราไม่ทำภาพสาวไทยผิวเข้ม นุ่งซิ่น ผ้าถุง นั่งตำส้มตำให้มันน่ารักขึ้นในสายตาชาวโลกถ้าทำได้มันจะเป็นแบรนดิ้งที่จริงมากขึ้น แล้วเราจะสนุกกับแบรนด์นี้และพามันไปได้ไกลกว่าเดิม แค่คิดเล่นๆเรายังสนุกเลย มันทำอะไรได้เยอะ และมีเอกลักษณ์ได้แทบทันทีโดยไม่ต้องปรุงแต่งเยอะ ทำไมเราไม่สนับสนุนให้สร้างบ้านที่นำเอาลักษณะบางอย่างจากบ้านไทยที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศของเรามาใช้ แทนที่จะเป็นบ้านปูนทรงโมเดิร์น หลังคาแบนแบบอย่างตะวันตก นั่งรำพึงรำพันกันเองตั้งแต่ก่อนปีใหม่เกี่ยวกับเรื่องความเป็นไทยที่กำลังหายไป และอยากทำงานสไตล์ไทยๆบ้าง คงได้เห็นงานออกแบบไทยสไตล์คอลเลคทีฟเร็วๆนี้ หมายเหตุ : ร้านอาหารญี่ปุ่นของเราก็ยังมีทำนะ ได้หมดถ้าสดชื่น 5555