top of page

Naritasan in Autumn - นาริตะความงามที่ถูกมองผ่าน



เวลาไปเที่ยวเมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ในปัจจุบันก็มักจะไปสนามบินที่นาริตะซะเป็นส่วนมาก

โดยทั่วไปเมื่อลงเครื่องก็จะรีบต่อรถบัสหรือรถไฟเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยวที่โตเกียวกัน

แล้วก็กลับมาขึ้นเครื่องบินเพื่อกลับบ้านที่นี่และอยากใช้เวลาที่โตเกียวกันให้มากที่สุด


นาริตะจึงเป็นเมืองทางผ่านที่หลายๆคนเมิน

แต่จริงๆแล้วเมืองเล็กๆทางผ่านแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจอยู่นะลองไปดูกัน


วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (成田山新勝寺)

วัดนาริตะซังเป็นวัดสำคัญของเมืองนาริตะ ในจังหวัดชิบะ อยู่ใกล้สนามบินแค่ชั่วอึดใจ เป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่าพันปี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเก่าแก่หลากหลายยุคสมัย



เมื่อลงรถที่สถานีรถไฟหรือรถเมล์ก็จะเจอกับทางเข้าถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆสองข้างทาง เช่น ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ขนม ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบทั้งที่ดูเก่าแก่ และทันสมัย เดินไปก็ต้องระวังตัวกันนิดนึง กว่าจะถึงวัดอาจจะช็อปปิ้งเพลินกระเป๋าแบนก่อนถึงวัดนะ



ที่เมืองนาริตะขึ้นชื่อเรื่องปลาไหลจะเห็นป้ายกราฟฟิกปลาไหลได้จากหลายๆที่ในเมือง

และก่อนถึงวัดก็มีร้านข้าวหน้าปลาไหลอยู่หลายร้าน

โชว์กรรมวิธีการทำกันสดๆหน้าร้านเลย จับเป็นๆจากในถังมาเชือดปุ๊บ เอามีดปักหัวกับเขียง

ปาดแล่ ควัก เสียบไม้ย่าง ควันฉุย ตอนแรกตั้งใจไปกินครับ

พอเห็นตอนมันโดนเชือดแล้วเกิดอาการสยองเปลี่ยนใจไปวัดเลยดีกว่า

กลับมาถึงกับงดกินปลาไหลไปนานเลย แมนมากๆ ฮา...

(ไม่ได้ถ่ายภาพมาเพราะเป็นมนุษย์ใจอ่อน)







เมื่อถึงวัดก็พบกับซุ้มประตูใหญ่ด้านหน้าที่สวยงามแบบคิดไม่ถึง ตอนแรกคิดว่าเป็นวัดบ้านๆต่างจังหวัด ที่ไหนได้สวยกว่าวัดที่โตเกียวแบบเทียบกันไม่ติด ผ่านทางเข้ามาก็จะมีบ่อน้ำให้ล้างมือมีหัวมังกรพ่นน้ำดูเท่เชียว


ถัดมาเป็นซุ้มโคมแดงที่ผมว่ามันดูขลังดี โคมแดงที่นี่มีรายละเอียดที่สวยงาม ตัวฐานเป็นไม้แกะสลักด้วยโครงสร้างหลักๆของตัวซุ้มเป็นไม้โชว์ผิวเลยให้อารมณ์เก่าๆกว่าแบบทำสี




เข้ามาด้านในอีก ก็พบกับตัวอาคารต่างๆที่สวยงาม มีซุ้มอบควันธูปที่คนนิยมแวะกวักควันธูปเข้าหาตัวเพื่อเป็นสิริมงคล เหมือนรดน้ำมนต์นั่นเอง ออกมากลิ่นอบอวลเลยทีเดียว




มีมุมให้เขียนป้ายขอพร มีคนไทยมาขอพรไว้เยอะเลย อ่านของชาวบ้านดูก็สนุกดีนะ อาจเป็นเพราะอยู่ต่างเมืองเลยเขียนกันจัดหนักมาก ขอกันเต็มๆไม่มียั้ง ฮา...


จากนั้นระเริ่มเข้าสู่บริเวณสวนที่เหมือนหลุดเข้าไปในป่าอันร่มรื่น ไม่น่าเชื่อว่าเดินนิดเดียวอยู่ดีๆบรรยากาศก็เปลี่ยนไปไม่รู้ตัวเลย





บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยมาก สวยไม่แพ้ที่อื่นๆที่ไปมาเลย เมื่อมาสัมผัสผมว่าเสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสี่ที่ญี่ปุ่นนี่คือมันมีความหลากหลาย มันมีทั้งแดง เหลือง เขียวในมุมเดียวกัน



เมื่อพ้นทางเดินในป่าออกมาก็จะเป็นบึงน้ำโล่งๆใหญ่ มีศาลากลางน้ำที่มีนักดนตรีเล่นเพลงบรรเลงช้าๆ ให้อารมณ์ที่พักผ่อน ไม่รู้สึกว่าวุ่นวายแม้ว่าคนจะเยอะก็ตาม คนญี่ปุ่นต่างมานั่งฟังเพลงกันที่ริมน้ำ





เดินวนรอบบึงก็จะพบกับอาคารนิทรรศการ ภายในมีจัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับตัวอักษรญี่ปุ่น เมื่อชมเสร็จก็เดินชมใบไม้แดงในมุมต่างไปเรื่อยๆ ในแต่ละมุมก็บรรยากาศต่างกันไปเดินแล้วไม่เบื่อเลย






แล้วก็ค่อยๆเดินวนกลับออกมาด้านนอก ชมส่วนต่างๆของวัดต่อ







เมื่อเดินออกจากวัดก็จะมีร้านขายของที่ระลึกประปราย เราก็โดนสุนัขจิ้งจอกไปคู่นึงเป็นที่ระลึก แล้วเดินชมบรรยากาศเงียบสงบของบ้านเรือนรอบๆวัดต่อไปเรื่อยๆ






ในที่สุดก็กลับมายังถนนที่เราเดินเข้ามาตอนแรกและกลับไปยังสถานีรถเมล์เพื่อเดินทางไปที่อื่นต่อ


หากใครที่กำลังจะผ่านนาริตะ ลองแบ่งเวลาแวะมาเดินเล่นดูสักสองชั่วโมง จะพบว่าที่นี่มีดีกว่าเป็นแค่ทางผ่านเยอะเลยนะ


แท็ก: