top of page

งานออกแบบสนามบินสุวรรณภูมิ Terminal 2 ดีเลวอย่างไร

ขอเกาะกระแสงานประกวดแบบสนามบิน สุวรรณภูมิที่ร้อนแรงในช่วงนี้นิดนึง

เนื่องจากมีกระแสถกเถียงมากมายในสื่อต่างๆว่า


แบบที่ชนะประมูลเหมาะสมหรือไม่

แบบก๊อปงานคนอื่นมารึเปล่า

ดูไม่เป็นไทยเลย สนามบินญี่ปุ่นรึเปล่า

ทำไมที่ 1 ถึงถูกปรับตก โปร่งใสไหม

.........

เลยอยากจะขอแสดงความเห็นแบบคอลเลคทีฟดูบ้าง


ลองมาดูกันก่อนว่าแต่ละบริษัททำออกมาเป็นอย่างไร

งานของ กลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค....


งานของบริษัทที่ปรึกษา SA Group ที่ได้อันดับ 1 แต่ตก TOR


งานของบริษัท เดอะโบว์มอนท์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด


งานของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาวาร์ดา แอสโซซิเอทส์


โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบรูปแบบนี้มากที่สุด (เท่าที่เห็นภาพ) เพราะดูสะอาดตา มีความทันสมัย ออกแนว Futuristic เหมาะกับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเรา

 

องค์ประกอบสถาปัตยกรรมนั้น หลักๆประกอบด้วย

Form & Function หรือเอาภาษาง่ายๆว่า การใช้งาน และรูปทรงความสวยงามที่เรามองเห็น

ซึ่งแบบที่เราในสื่อต่างๆตอนนี้ เราเห็นเพียงแค่รูปทรงเท่านั้นเอง

ในประเด็นแรกเรื่องของแบบที่ดูเหมือนก๊อปปี้งานของญี่ปุ่นมา


Yusuhara Wooden Bridge Museum ออกแบบโดย Kengo Kuma & Associates

เรื่องก๊อบปี้แบบนั้นผมเองเห็นว่ามันก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่แหละ แต่ว่าการนำเอาองค์ประกอบแบบนี้มาใช้ในการออกแบบก็เห็นกันได้บ่อยๆที่ผ่านมา ในงานของคนอื่น และทั้งงานของ DBALP เอง (หรือจะบอกว่าก็ลอกมานานแล้ว...ฮา) ผมว่ามันเป็นภาษาทั่วๆไปแบบเอเชียแถบจีนญี่ปุ่น ไม่งั้นจีนคงบอกว่า Kengo ลอกงานของเค้ามาเพราะเค้าทำเสร็จก่อนน่ะสิ กลายเป็นว่าหลังจากนี้ไปคงไม่มีใครกล้าเอารูปทรงแบบนี้มาใช้เพราะจะกลายเป็นโดนด่าแน่ๆ

China Pavilion ในงาน Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้

ผมว่าความรู้สึกของคนส่วนหนึ่งคือมันไปเหมือนของทางญี่ปุ่นมากไป

ถ้าก๊อปปี้แล้วมันดูเป็นไทยก็อาจจะด่ากันน้อยกว่านี้

แต่เมื่อมองไปเรื่อยๆในบางมุม ด้วยการจัดวางที่มีความโค้งขึ้นไปบนหลังคา

ผมกลับรู้สึกว่ามันออกจะไปทางแขกๆแบบอินโดนีเซียหรืออินเดียซะด้วย

เรียกว่ามันดูออกเป็นแบบตะวันออกหรือ Oriental มากกว่าจะจำเพาะเจาะจงว่าเป็นญี่ปุ่นหรือจีน


คือดูแค่อันเดียวมันก็ดูเหมือนลอกมา แต่พอดูรวมๆทั้งหมดมันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปนะ


แต่งานออกแบบทัศนียภาพที่ออกมาให้ความรู้สึกแน่น อึดอัด และทึบตันไปสักหน่อย มันเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ด้านบน ให้ความรู้สึกว่าเข้าไปในวิหาร โบราณสถานยังไงไม่รู้ เหมือนจะต้องเตรียมของไหว้เข้าไปด้านในด้วย สนามบินมันน่าจะดูโล่งโปร่งและให้ความรู้สึกที่ทันสมัยกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่ได้คืออารมณ์ศักดิ์สิทธิ์และขลัง


และมันก็ไม่เห็นออกมาตอบสนองแนวความคิดที่ว่า "ป่าเมืองร้อน"ที่คุณดวงฤทธิ์ว่าไว้สักเท่าไหร่ ผมว่ามันดูเหมือนป่าจะหมดยังไงไม่รู้ เหมือนกองฟืนมากกว่าเป็นป่า ทั้งดูแข็งและไม่ชุ่มชื้นอย่างคำพูด

แค่มีสวนเมืองร้อนมาประกอบแนวความคิดที่บอกไว้ มันก็ดูเป็นดีไซน์แบบตัดแปะเกินไปหน่อยว่าไหม


งานออกแบบถ้าทำมาได้บรรยากาศตามแนวความคิดที่บอก ให้ผู้ดูสัมผัสได้จริง เรื่ององค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่คล้ายกันจะกลายเป็นเรื่องรองลงไป เพราะมันถูกนำมาใช้เพื่อสื่อความหมายคนละเรื่องกับของคนอื่น แม้ว่าจะเป็นคำๆเดียวกัน และคนคงจะด่าน้อยลงไปอีก (หน่อยนึง)


ในส่วนเรื่องการดูแลรักษาที่ว่ามันจะไม่เก็บฝุ่นเพราะการระบายอากาศและมีช่องกระจกในช่องว่างระหว่างไม้ก็ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เรียกว่าขี่ช้างจับตั๊กแตนก็ได้ ไม่เก็บฝุ่นแต่ก็ต้องเช็ดกระจกไหม หรือใช้กระจกรุ่นที่ทำความสะอาดตัวเองได้


ในฐานะที่เป็นสถาปนิกและเป็นผู้ใช้งานสนามบิน ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากกับเรื่องภาพลักษณ์หรือหน้าตาของสนามบิน ไม่ได้คิดว่ามันต้องเป็นไทยหรือจะสากล ผมรู้สึกว่าสิ่งสำคัญคือ บรรยากาศในภาพรวม และความสะดวกในการใช้งาน ถ้าคิดว่ามันยังไม่ไทยแล้วเอาศาลาไทยหรือหุ่นไทยๆไปตั้งมันก็ยิ่งดูฮาไปกันใหญ่


เอาจริงๆตอนนี้ใครสนใจเรื่องหน้าตาของสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 1 บ้างเวลาที่ไปสนามบิน หรือเวลาไปดอนเมืองมีสักกี่คนจะบอกว่าสนามบินเราทำไมดูเชยจัง มีแต่บอกว่าเมื่อไหร่จะแก้ปัญหารถติดในสนามบินและความแออัดลงได้ นี่ฉันมาสนามบินหรือท่ารถทัวร์


เพราะฉะนั้นเรื่องหน้าตาของมันเป็นแค่ส่วนเดียวขององค์ประกอบทั้งหมด

งานออกแบบที่เห็นอาจจะวางผังดีระดับเทพที่ทำให้ลบเรื่องภาพลักษณ์ของมันไปก็ได้


ผมว่าสถาปนิกระดับคุณดวงฤทธิ์แกไม่ใช่ไม่รู้ว่างานมันมีความคล้ายคลึงกับของผู้อื่น

และไม่คิดว่าคนจะไม่เคยเห็นหรอกครับ ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่คนไทยไปเที่ยวปีละเกือบล้านคนแล้วตามสถิติในปีที่ผ่านมา แกก็เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้วล่ะ และคนมั่นใจระดับเขาคงไม่ถอยง่ายๆ สำหรับผมมันเป็นเรื่องน่าผิดหวังเล็กน้อยที่ถ้าอยากได้รูปทรงแบบนี้จริงๆ โชว์กึ๋นหน่อย บิดมันสักนิดมันจะดูไม่ครหา และเข้าท่ากว่านี้เยอะ แค่นิดเดียวเองจริงๆ


และอย่างที่เราเห็นกันแบบมันก็มีมาสี่บริษัท ถ้าตัดเรื่องก๊อปปี้หรือดูญี่ปุ่นออกไปก่อน

เท่าที่เห็นด้วยภาพก็ต้องยอมรับว่า งานของคุณดวงฤทธิ์ก็ดูดีกว่าบริษัทอื่นๆอยู่อย่างเห็นได้ชัด

ไม่ใช่ว่าแบบมันดีแล้ว แต่ก็เพราะทั้งหมดมันมีดีแค่นี้ไง

มันไม่มีแบบที่เจ๋งกว่านี้มาให้เลือกแล้วไง

ต่อให้ทุกเจ้าทำออกมาเป็นหมอชิต 2 ก็ต้องเลือกสักอันนั่นแหละ

ผมว่าเรื่องคุณภาพของบริษัทที่เข้ามาเสนองานทั้งหมดก็มีส่วนในปัญหาเรื่องนี้


เช่นแบบของ บริษัทที่ปรึกษา SA Group ที่ได้ที่ 1 ด้วยแนวความคิดเรื่องดอกบัวก็ดูตื้นจนนึกว่าเป็นงานออกแบบของนักศึกษามหาวิทยาลัย ดูธรรมด๊า ธรรมดา น่าจะอยู่อันดับ 3 ในความคิดผม

และดอกบัวมันก็ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทยเสมอไปอย่างที่เขียนนะครับ

ดอกบัวมันก็มีหมดในทุกประเทศแถบนี้แหละ ทั้งลาว พม่า กัมพูชา ฯลฯ ใช้บูชาพระเหมือนกัน

เป็นอาจารย์ผมสมัยเรียนคงพูดว่า ถ้าคิดจะทำแค่ให้มันเหมือนของเดิมแล้วบอกว่าเอามาจากดอกบัวให้ไปคิดมาใหม่นะลูก.... ทำอะไรมาเพิ่มอีกนิดนึงนะ space ที่โล่ง มันก็โล่งเกินจนไร้ดีเทล


หรือแบบของ บริษัท เดอะโบว์มอนท์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ที่ภาพ perspective ภายนอกดูแล้วของจริงไม่น่าจะสวย ภาพภายในเห็นแล้วก็นึกว่าจะเอาแบบนี้จริงๆหรือ มีหลุมดำสีม่วงๆ และแสงส่องลงมามีม้าน้ำ pony ลอยๆอย่างกับการ์ตูน (คงไม่ใช่ Pony จริงๆหรอก จินตนาการเอาจากภาพน่ะ) นี่คือการตกแต่งสนามบินหรือ Event Decoration ที่จัดงานกลางห้าง


ผมว่าปัญหาเรื่องสำคัญคือการเปิดประมูลงานของทอท.ที่น่าจะเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีคุณภาพเข้าไปเสนองานได้มากขึ้น มีตัวเลือกผลงานที่มีคุณภาพกว่านี้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ดูไม่โปร่งใสขึ้นมา ก็ตอบสังคมได้ไม่ชัดเจน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในความคิดผม เพราะถ้าเราไม่สามารถแก้กระบวนการนี้ได้ ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่อยไป


อย่างที่ได้เกริ่นไป งานสถาปัตยกรรมประกอบด้วยการใช้งานและความงาม

สิ่งที่เราเห็นว่าสวยหรือไม่และตัดสินกันเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์ประกอบทั้งหมดเท่านั้นเอง

มันยังมีเรื่องอื่นๆให้เราพิจารณาว่ามันเหมาะหรือเปล่าอีกหลายสิ่ง


สิ่งที่จะพิสูจน์คุณค่าของงานสถาปัตยกรรมได้คือ เมื่อมันเสร็จและเปิดใช้งาน

อาคารแห่งนี้จะตอบสนองต่อความงาม และการใช้งานได้ดีแค่ไหน

คุ้มไหมกับค่าก่อสร้าง 42,000 ล้าน และค่าออกแบบ 300 ล้าน

ทุกคนคงมีคำตอบในวันนั้น.....


เพราะสิ่งที่เราคนไทยเราน่าจะรู้สึกมากๆกับสถานที่แห่งนี้คือ

ขอให้รถไม่ติด จอดรถสะดวก ห้องน้ำไม่เต็ม ผ่านตม.ไวๆ สแกนแบบไม่ต้องต่อคิวสามตลบ


คราวนี้คนจะด่าหรือชื่นชม ผมว่าคุณดวงฤทธิ์คงจะต้องเตรียมตัวไว้รอมากกว่ารอบนี้เยอะเลยล่ะ...


----------------------------------------

The Collective Studio Co., Ltd.

Architecture & Interior Design

www.ctstu.com

Tel. 094 442 4652


ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่


แท็ก:

ดู 1,976 ครั้ง

Comments


Commenting has been turned off.
bottom of page