top of page

รวม 7 ไอเดีย เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้าน Eco-Friendly ใคร ๆ ก็ทำได้


Eco Friendly

ใครที่เป็น สาย Eco บอกเลยว่ามาถูกทางเเล้ว! เพราะตอนนี้การใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมในตอนนี้ถือว่ากำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนเริ่มหันมาปรับปรุงบ้านให้เป็น Eco - friendly เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อโลก แต่ยังคงความสะดวกสบาย และเพิ่มมูลค่าให้บ้านได้ด้วย วันนี้ทาง The Collective มีไอเดียดี ๆ ที่จะทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่เขียวมากยิ่งขึ้น แถมยังประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังน่าอยู่กว่าเดิม เเละที่สำคัญเป็นเรื่องที่ง่าย เเถมยังลดค่าใช้จ่ายระยะยาวไปได้อีกเยอะเลย


อะไรคือ  Eco-Friendly ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า Eco-Friendly กันดีกว่า ซึ่งคำนี้ หมายถึงการที่ผลิตภัณฑ์หรือกิจกรรมมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด หรือช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุที่ยั่งยืน การลดการใช้พลังงาน หรือการไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 


และบ้าน Eco-Friendly คือ บ้านที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยมีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้เป็นที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมโดยรวม 


พอได้มาเห็นภาพที่ชัดเจนแบบนี้แล้ว เรามาดูไอเดียการแต่งบ้าน ที่ทั้งประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับธรรมชาติกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้างที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อเปลี่ยนบ้านของเราให้กลายเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่และใส่ใจสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน ไปดูกันเลย


7 ไอเดีย เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้าน Eco-Friendly


1. ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels)

ในตอนนี้ แผงโซลาร์เซลล์ กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตในการทำบ้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกทั้งตัวแผงโซลาร์ไม่เพียงแต่ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังทนทานและสามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในตอนกลางคืน ได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าอาจต้องลงทุนสูงในช่วงแรก แต่ในระยะยาวการประหยัดค่าไฟจะช่วยคืนทุนได้แน่นอน แถมยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้บ้านอีกด้วยนะ


แต่ถ้าใครสนใจที่จะติดตั้งจริง ๆ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์เซลล์  เพราะเขาจะช่วยประเมินความต้องการพลังงานของบ้าน และเลือกระบบที่เหมาะสมที่สุดให้คุณ ไม่เพียงช่วยลด Carbon footprint แต่ยังทำให้บ้านดูทันสมัย และโดนใจคนที่อาจสนใจซื้อในอนาคตด้วย

 แผงโซลาร์เซลล์ กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตในการทำบ้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกทั้งตัวแผงโซลาร์ไม่เพียงแต่ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังทนทานและสามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในตอนกลางคืน ได้อีกด้วย
Solar Panels

2. เปลี่ยนหน้าต่างเป็นแบบประหยัดพลังงาน (Energy-Efficient Windows)

การเปลี่ยนมาใช้ Energy - Efficient Windows ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนได้ดีเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้หน้าต่างรุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมเทคโนโลยี Low-E Coatings และกระจกสองหรือสามชั้น ช่วยกักเก็บความเย็นและความร้อนภายในได้ดีขึ้น แถมบางรุ่นยังมีฟีเจอร์ช่วยกันเสียง ทำให้บ้านของเรานั้นเงียบสงบมากขึ้นอีกด้วยนะ


3. ติดตั้งอุปกรณ์ Smart Home

สำหรับอุปกรณ์ Smart Home หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่ามีประโยชน์แค่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ แต่จริง ๆ แล้ว สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Smart Thermostat ที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมอัตโนมัติ หรือ Smart lighting ที่ปิดไฟเองเมื่อไม่มีคนอยู่ การติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะช่วยให้คุณควบคุมการใช้พลังงานในบ้านได้ดีขึ้น ยิ่งในอนาคตอาจมีระบบอัจฉริยะสำหรับการจัดการพลังงานแสงอาทิตย์ หรือการใช้น้ำ ช่วยให้เราสาามารถประหยัดทั้งพลังงาน และค่าน้ำได้เยอะเลย

Smart home หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่ามีประโยชน์แค่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ แต่จริง ๆ แล้ว สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Smart Thermostat ที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมอัตโนมัติ หรือ Smart lighting ที่ปิดไฟเองเมื่อไม่มีคนอยู่
Smart Home

4. ติดตั้งระบบเก็บน้ำฝน (Rainwater Harvesting System)

การเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในบ้านถือว่าประหยัดไดเยอะเลย เช่น รดน้ำต้นไม้ ซักผ้า หรือกดชักโครก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการใช้น้ำจากประปา ระบบเก็บน้ำฝนในปัจจุบันติดตั้งง่ายและมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย คุ้มค่า แถมยังเป็นวิธีประหยัดน้ำที่ดีมาก เหมาะสำหรับคนที่อยากลดค่าน้ำสุด ๆ  


5. ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เป็นแบบประหยัดพลังงาน (Energy-Efficient Appliances)

เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นเก่า บอกเลยว่าใช้แล้ว เปลืองไฟสุด ๆ ถ้าเราต้องการที่จะปรับปรุงบ้านจริง ๆ ลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี Energy Star หรือฉลากประหยัดพลังงานอื่น ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ออกแบบมาให้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และลดค่าไฟฟ้าได้เยอะ แม้ราคาจะสูงกว่ารุ่นเก่า แต่การประหยัดค่าไฟในระยะยาว ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ 


6. เปลี่ยนมาใช้ฉนวนกันความร้อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Insulation)

เรื่องนี้ก็ถือว่าสำคัญ เพราะการรักษาอุณหภูมิในบ้านให้เหมาะสม ขึ้นอยู่กับฉนวนกันความร้อนที่ดี แต่ฉนวนแบบเดิมที่หลาย ๆ คนใช้อาจมีสารเคมีที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม จึงต้องเปลี่ยนใหม่ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ซึ่งฉนวนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ขนแกะ, กระดาษรีไซเคิล หรือ เศษยีนส์เก่า และยังมีวัสดุอื่นอีกเยอะเลย ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกันความร้อนและสามารถเก็บความเย็นได้ดีเลยทีเดียว


7. การเลือกพื้นบ้านที่มีความยั่งยืน (Sustainable Flooring)

การเลือกวัสดุปูพื้นจากวัสดุที่ยั่งยืน เช่น ไม้ไผ่, ไม้ก๊อก หรือ ไม้เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ ถือว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พื้นไม้ไผ่เป็นที่นิยมนำมาใช้งาน เพราะปลูกได้เร็วและเป็นทรัพยากรที่ยั่งยืน ไม้ก๊อกก็มาจากเปลือกไม้ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องตัดต้นไม้ ส่วนไม้เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ไม่เพียงช่วยลดการตัดไม้ใหม่ แต่ยังเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับบ้านของเราอีกด้วยนะ 

ไม้ไผ่, ไม้ก๊อก หรือ ไม้เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ ถือว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พื้นไม้ไผ่เป็นที่นิยมนำมาใช้งาน เพราะปลูกได้เร็วและเป็นทรัพยากรที่ยั่งยืน ไม้ก๊อกก็มาจากเปลือกไม้ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องตัดต้นไม้
Sustainable Flooring
เปลี่ยนทุกวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยบ้าน Eco-Friendly

เเละทั้งหมดนี้คือ ไอเดียในการตกแต่งบ้าน Eco-Friendly ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่จริง ๆ เเล้วยังมีอีกหลายวิธีเลยนะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าข้อไหนที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบ้านของตัวเองดูบ้าง ลองนำปรับไปใช้ได้เลย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกของเรา ให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ทำให้บ้านของเราดูดี แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น และช่วยให้เรามีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ


 

ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของพวกเราได้ที่นี่

ดู 26 ครั้ง
bottom of page