ปัจจุบัน เราต่างอยู่ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และอุตสาหกรรมแฟชั่นได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเร่งที่เพิ่มภาระให้กับโลกใบนี้ โดยโลกเราต้องเผชิญกับปริมาณขยะเสื้อผ้าที่เพิ่มขึ้นจากกระแส Fast Fashion ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการใหม่ ๆ และโปรโมชั่นล่อตาล่อใจที่มีทุก ๆ ซีซั่นไปไม่มีที่สิ้นสุด
"แฟชั่น! ของมันต้องมี, นาทีทอง, ซื้อ 2 แถม 1, ลด 50%, ช้า หมด อด!”
สำหรับเสื้อผ้าจำนวนมหาศาล ได้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่ส่วนมากมักจะเกินพอดี และเมื่อกระแสเปลี่ยนเร็ว เสื้อผ้าเหล่านี้ก็ถูกทิ้งเร็วกว่าที่ควร พูดได้เลยว่า มาไว ไปไว! ซึ่งข้อมูลได้ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 10% ของโลก พร้อมกับใช้น้ำในปริมาณมหาศาล เช่น การผลิตกางเกงยีนส์เพียงหนึ่งตัวใช้น้ำมากถึง 7,500 ลิตร นอกจากนี้ เสื้อผ้าที่ถูกทิ้งยังใช้เวลานับสิบปีในการย่อยสลาย และอาจปล่อยสารพิษเข้าสู่ดินและน้ำซึ่งปัญหาเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และอาจจะส่งผลกระทบไปสู่ ภาวะโลกร้อน
เมื่อเสื้อผ้า…เริ่มกลายเป็นภาระ
หากเราลองมองไปที่เสื้อผ้าในตู้ หลายคนอาจไม่ทันคิดว่าเบื้องหลังของเสื้อผ้าเหล่านั้นต้องใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล ทั้งการผลิตฝ้าย การย้อมสี และการขนส่ง แต่ผลลัพธ์ที่น่าเศร้าคือ เสื้อผ้าจำนวนมากถูกทิ้งก่อนที่จะถูกใช้จนคุ้มค่า กลายเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก
และการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมแฟชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ผู้บริโภคทุกคนมีส่วนสำคัญในการสร้างทางเลือกที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เช่น การซื้อเสื้อผ้ามือสอง การเลือกแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือการลดจำนวนการซื้อและใช้งานเสื้อผ้าให้นานขึ้น ทุกการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ สามารถสร้างผลกระทบใหญ่ได้ เพื่อให้แฟชั่นไม่ใช่แค่เรื่องของสไตล์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลโลกใบนี้
Fast Fashion วายร้ายในเสื้อผ้าสวย
การเพิ่มขึ้นของ Fast Fashion ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เสื้อผ้าปริมาณมหาศาลถูกทิ้งทุกปี โดยเฉพาะในสหรัฐฯ มีขยะสิ่งทอราว 85% ถูกนำไปฝังกลบหรือเผาทิ้ง เทียบเท่ารถบรรทุกขยะเต็มคันที่ถูกนำไปฝังกลบในทุกๆ วินาที เห็นเเบบนี้เเล้วทุกคนคิดว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยอยู่หรือไม่
เเละเพียง 12% ของวัสดุที่ใช้ในเสื้อผ้าทั่วโลกถูกรีไซเคิล เหตุผลหลักคือความซับซ้อนของเนื้อผ้าและการผสมวัสดุ เช่น เสื้อยืดที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% แต่ประกอบด้วยป้ายและเส้นด้ายที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ การแยกวัสดุก่อนที่จะนำไปรีไซเคิลนี้แต่ละครั้ง ต้องใช้แรงงานฝีมือและเวลาเป็นจำนวนมาก
Vivienne Westwood นักออกแบบแฟชั่นระดับตำนาน เจ้าแม่แห่งแฟชั่นพังก์! สุดเท่ เคยกล่าวไว้สั้น ๆ แต่ได้ใจความว่า "ซื้อให้น้อยลง เลือกสิ่งที่ดีกว่า และใส่ให้นาน" คำแนะนำนี้สะท้อนแนวคิดของการแก้ปัญหาการบริโภคที่เกินความจำเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในยุค Fast Fashion ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทำยังไงดี? ของก็ต้องใช้ เเต่ก็อยากรักษ์โลก
สำหรับเราแล้ว เรามองว่าการปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสองเพื่อนำมาเเป็นแฟชั่นหมุนเวียน สำหรับการใช้ในระยะยาว ทางเลือกนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่ช่วยยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ เเต่เราก็ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ดี ถูกสุขอนามัยด้วย
ส่วนอีกทางเลือกและสำหรับใครที่อยากได้เสื้อผ้ามือหนึ่ง เราลองเปลี่ยนมาเลือกเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้นาน และสนับสนุนแบรนด์ที่มีแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมกันดีกว่า ถือว่าเป็นทางออกที่ดี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมแนวทางแฟชั่นที่ยั่งยืน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว โดยพวกเราทุกคน มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยกันสร้างอนาคตที่ดีไปด้วยกัน เพียงเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันนี้ และถ้าใครมีไอเดีย หรือมีเเนวคิดไหนที่น่าสนใจสามารถมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลย
อ้างอิง : Earth, Waste Managed, Sustainable Discovery, BBC
ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของพวกเราได้ที่นี่