Updated: Mar 14
The Land of Beautiful Horse
คือความหมายของเมือง Cappadocia ดินแดนที่ราบอันกว้างใหญ่และแปลกตา กลางประเทศตุรกี ที่ประกอบด้วยเมืองเล็กๆหลายเมืองใกล้กันทั้ง ซึ่งเมืองที่ฮิตที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวก็หนีไม่พ้นเมือง”Göreme” ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมทุกอย่าง
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายหลายสิ่ง ทั้งการขึ้นบอลลูนชมวิวในตอนเช้า ขี่ ATV ขี่อูฐ แต่ในเมื่อมาถึงเมืองที่มีม้าป่าอันสวยงามแล้วก็ต้องลองขี่ม้าชมเมืองสักหน่อย
การขี่ม้าที่นี่มีหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงเดินรอบๆ 2ชั่วโมงตอนเช้า ตอนเย็น ครึ่งวัน เต็มวัน ครั้งนี้ผมเลือก Sunset Riding ในช่วงเย็นเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลมากและไม่ร้อน
เส้นทางการขี่จาก Lucky Horse Ranch ไปที่ Cavusin ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ขี่ไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมงแบบชิลๆ ไม่เร่งรีบ
หลังจากได้รับการแนะนำวิธีการนั่งและการควบคุมม้าเบื้องต้นพอเข้าใจแล้วก็เริ่มออกเดินทางกันเลย
ม้าที่นี่ค่อนข้างเชื่องมาก แต่ในความเชื่องนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ !!!
..........
พวกเราทั้งหมดเดินทางกันเป็นกลุ่มไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีทัศนียภาพที่สวยงาม เส้นทางก็มีขึ้นลงเนินเขาบ้าง
เมื่อคุ้นเคยกับม้าสักพักผมเริ่มมีความรู้สึกว่า...ม้าที่ดูเชื่อง แต่พร้อมที่จะออกนอกลู่นอกทางทันทีหากผมปล่อยบังเหียนให้หย่อน หรือถ้าเจอต้นไม้อ่อนๆก็จะหยุดแทะกินใบไม้ตามทางบ้าง
มันเหมือนผมต้องถือบังเหียนให้ตึงมือนิดๆตลอดเวลา คอยควบคุมจิตและสติตัวเองไว้ไม่ให้หลุดลอยไปไหน
แม้ว่าผมจะชื่นชมความงามของสิ่งรอบกาย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าผมกำลังขี่ม้า ไม่ใช่เดินอยู่ จะมาขี่ไปถ่ายรูปเซลฟี่ไปไม่ได้
ม้าก็เลยเหมือนจิตของคนที่เราต้องอยู่กับมันอย่างรู้เท่าทัน คอยดึงสติ ประคับประคองอารมณ์ไม่ให้คึกคะนอง หุนหันพลันแล่น
หากเผลอไผลไปกับสิ่งรอบข้างเราก็ไม่อาจจะถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย
เราขี่กันไปเรื่อยๆ ผ่านสุสานเป็นด่านแรกของการเข้าสู่เมือง Cavusin เป็นสุสานที่ดูเรียบง่าย ไม่เป็นระเบียบมากนัก เหมือนเป็นการเตือนสติเราให้รู้ว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน ความตายอยู่ใกล้ตัวคนทุกคน
เมื่อถึงที่หมายเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยว ก็ลงมาพักกินน้ำทับทิมคั้นกันสักพัก พูดคุยกันถึงเรื่องความตื่นเต้นในการขี่ม้า ความสวยงามของทิวทัศน์ของการเดินทางที่ผ่านมา
นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกเดินทางกลับกัน
แม้ว่าจะกลับทางเดิมที่เพิ่งผ่านมา แต่เพราะในมุมของแสงที่ต่างกันก็ทำให้เราได้เห็นความงามของทัศนียภาพที่ต่างออกไป
พักชมวิวพระอาทิตย์ตก
พระอาทิตย์ตกวันนี้เป็นวันที่ผมประทับใจมากที่สุดครั้งนึงในชีวิตเลยล่ะ ไม่ใช่เพราะแค่สวยงามด้วยวิวที่เห็น แต่ด้วยความรู้สึกที่เราเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้มาก
ผมขี่ม้าวื่งไปหาดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงมาเรื่อยๆ ประหนึ่งว่ากำลังไปสู่จุดหมายอันไกลโพ้นที่ไม่มีวันถึง
เป็นช่วงเวลาที่เหมือนเวลาหยุดนิ่ง วิ่งควบไปกับจิตตัวเองที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับม้าที่เราขี่
หลังจากจบการเดินทางกลับมาถึงคอก ผมลงมายืนมองม้าที่ได้เดินทางด้วยกันมา
ขณะนั้นเหมือนผมได้ลงมาจากอารมณ์และอัตตาของตัวเอง ได้สัมผัสอีกด้านของจิตใจตัวเองที่ก็แอบซ่อนความดื้อโดยที่เราไม่รู้ตัว
ม้าหันมาหลิ่วตาให้ผมทีนึงเป็นสัญญาณแบบรู้กัน ก่อนสะบัดตูดหันกลับเข้าคอกไป